สธ.เตรียมแผนเคลื่อนย้าย ‘ผู้ป่วย’ ไปโรงพยาบาลพื้นที่ปลอดภัย หากมีการใช้อาวุธพิสัยไกล
“รมว.สมศักดิ์” สั่งหมุนเวียนทีมปฏิบัติการการแพทย์และสาธารณสุขทุก 2 สัปดาห์ ลดความเหนื่อยล้า ความเครียดของบุคลากร เผยผลคัดกรองสุขภาพจิตผู้อพยพจากความไม่สงบชายแดนไทยกัมพูชาแล้วกว่า 1 หมื่นคน เครียดสูง 60 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 46 คน ให้การดูแลตามกระบวนการแล้ว พร้อมเตรียมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลพื้นที่ปลอดภัยหากมีการใช้อาวุธพิสัยไกล
วันที่ 28 ก.ค. 68 ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ประชุมประชุมติดตามสถานการณ์และการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการดูแลผู้อพยพว่า สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง มีการเปิดศูนย์อพยพเพิ่มเป็น 534 แห่ง ผู้เข้าพักรวม 156,966 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 29,138 คน ได้จัดทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ อนามัยสิ่งแวดล้อม ควบคุมโรค และสุขภาพจิต ออกให้การดูแลประชาชนรวม 486 ทีม และยังมีเตรียมไว้อีกกว่า 200 ทีม โดยจากการคัดกรองสุขภาพจิตประชาชนไปแล้ว 11,016 คน พบมีความเครียดสูง 60 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 46 คน ซึ่งทุกคนได้รับการปฐมพยาบาลจิตใจและติดตามดูแลตามกระบวนการแล้ว
ทั้งนี้ ได้ย้ำให้มีการหมุนเวียนทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุก 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเหนื่อยล้าและความเครียด รวมทั้งคัดกรองสุขภาพผู้ที่เข้าพักในศูนย์อพยพ เฝ้าระวังการเจ็บป่วยที่อาจเป็นอันตรายหรือโรคที่อาจแพร่ระบาด ดูแลด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อความปลอดภัยทั้งประชาชนและบุคลากรที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งให้ทุกพื้นที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนรองรับกรณีมีการใช้อาวุธพิสัยไกล ซึ่งจะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลรอบนอกเพื่อความปลอดภัยด้วย
ส่วนข้อมูลเมื่อเวลา 09.00 น. มีประชาชนเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บเพิ่ม 2 ราย รวมบาดเจ็บสะสม 38 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 16 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 11 ราย อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โรงพยาบาลได้รับผลกระทบรวม 19 แห่ง โดยต้องปิดให้บริการทั้งหมด 12 แห่ง ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน 5 แห่ง ให้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉิน 2 แห่ง และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยใน 656 ราย ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัย 34 แห่ง