“สว.วีระพันธ์” ถาม สปสช. จำเป็นหรือไม่สิทธิประโยชน์แปลงเพศ ฮอร์โมนเสริมทดแทนกลุ่ม LGBTQ
“สว.วีระพันธ์” ถาม สปสช. เพิ่มสิทธิประโยชน์กลุ่ม LGBTQ กรณีแปลงเพศ การใช้ฮอร์โมนเสริมทดแทน อาจจำเป็นน้อยกว่าการใช้ยาดีๆ รักษาโรคมะเร็ง ย้ำไม่ได้แยกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะคนไทยเหมือนกัน ต้องได้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ควรเป็นสิทธิรักษา สิทธิพื้นฐานให้ดีก่อนหรือไม่
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ในการประชุมวุฒิสภา นพ.วีระพันธ์ สุวรรณามัย สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามสด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) โดยกล่าวตอนหนึ่งในการตั้งกระทู้ถาม ว่า ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจประเด็นที่ก่อนหน้าที่ตนโพสต์เรื่อง ระบบสาธารณสุขกำลังจะล่มสลาย แต่มีคนตีความ เข้าใจผิดว่า รพ.จะเจ๊งจนไม่สามารถบริการประชาชนได้ แต่จริงๆ ตนไม่ได้หมายความเชิงกายภาพ แต่หมายความเชิงคุณภาพในการรักษาผู้ป่วย เพราะรพ.เป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐ ตราบใดมีรัฐ รพ.ไม่เจ๊ง แต่คนเจ๊ง คือ ประชาชน
“เมื่อรพ.ขาดสภาพคล่อง ขาดทุนกันหลายแห่ง อย่างรพ.พระพุทธชินราช ซึ่งผมเคยเป็นหมอผ่าตัดอยู่นั้น สมัยก่อนมีเงิน 700-800 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเหลือ 70 ล้านบาท แม้แต่รพ.สุโขทัยที่บ้านท่านรัฐมนตรีก็ขาดทุน” นพ.วีระพันธ์ กล่าว
สว.วีระพันธ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อคุณภาพยา ประเด็นสำคัญที่รพ.ขาดทุน เพราะอัตราการจ่ายให้รพ.ไม่สมเหตุผล อย่างค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ (AdjRW) อยู่ที่ 8,350 บาท แต่ค่ารักษาจริงอยู่ที่ประมาณ 13,000 กว่าบาท และพอปลายปีงบประมาณก็จ่ายไม่ถึงอีก และการจ่ายตามรายการหรือ Fee Schedule เช่น ยาลดความดัน สปสช.จ่ายเม็ดละ 1 บาท หากรพ.สั่งซื้อเม็ดละ 2 บาทก็จะได้รับเพียง 1 บาท ยิ่งรักษายิ่งขาดทุน การเบิกจ่ายล่าช้า และที่สำคัญเอกสารไม่ครบ เบิกเงินไม่ได้ นี่คือที่มาของการตั้งกระทู้
“สปสช.ก็มักมีโครงการเพิ่มมากมาย อย่างสิทธิประโยชน์ กรณีกลุ่ม LGBTQ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เราต้องรักษา และมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญของไทยเช่นกัน แต่การแปลงเพศ การใช้ฮอร์โมนเสริมทดแทน อาจจำเป็นน้อยกว่าการใช้ยาดีๆ รักษาโรคมะเร็งหรือไม่ การไปเพิ่มสิทธิประโยชน์มากเกินไปจะกระทบการรักษาปัจจุบัน” นพ.วีระพันธ์ กล่าว