สปสช.ไฟเขียว! “การจ่ายค่าพาหนะรับส่งผู้ป่วยรักษา 3 บริการการแพทย์ขั้นสูง
บอร์ด สปสช. เห็นชอบ “ข้อเสนอการจ่ายค่าพาหนะสำหรับบริการรับส่งผู้ป่วยเข้ารับการักษาด้วย “รังสีโปรตอน” “ฝั่งแร่ที่ตา” และ “ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์” พร้อมมอบ สปสช. ประสานและเตรียมระบบและจัดทำประกาศหลักเกณฑ์ฯ ต่อไป
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาได้เห็นชอบ “ข้อเสนอการจ่ายค่าพาหนะ สำหรับบริการรับส่งผู้ป่วยเพื่อเข้ารับบริการสาธารณสุขสำหรับบริการการรักษาด้วยรังสีโปรตอน การใช้แร่เฉพาะที่ฯ และบริการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด” เพื่อขับเคลื่อนดูแลผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ให้เข้าถึงบริการภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ข้อเสนอฯ ดังกล่าว สืบเนื่องจากตามมติบอร์ด สปสช. ในการให้บริการสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล 3 รายการ ประกอบด้วย บริการการรักษาด้วยรังสีโปรตอน การใช้แร่เฉพาะที่ฯ และบริการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ซึ่งเป็นบริการทางการแพทย์ขั้นสูงที่มีศักยภาพในการรักษา โดยมีการให้บริการเฉพาะโรงพยาบาลที่มีศักยภาพเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยทั่วประเทศตามวัตถุประสงค์ ที่ผ่านมา บอร์ด สปสช. ยังเห็นชอบให้มีการจัดระบบรับส่งผู้ป่วยที่ต้องรับการส่งต่อรักษาทั้ง 3 รายการ โดยมอบให้ สปสช. ไปดำเนินการเพื่อให้เกิดการบริการ
ดังนั้น ในวันนี้ สปสช. จึงได้นำ “ข้อเสนอการจ่ายค่าพาหนะสำหรับบริการรับส่งผู้ป่วยเพื่อเข้ารับบริการสาธารณสุขสำหรับบริการการรักษาด้วยรังสีโปรตอน การใช้แร่เฉพาะที่ฯ และบริการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด” เพื่อให้บอร์ด สปสช. พิจารณาและเห็นชอบเพิ่มเติม ดังนี้
บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอการปรับ ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. 2567 (ฉบับที่ 3) เพื่อให้การดำเนินการจ่ายค่าพาหนะรับส่ง กรณีมารับบริการ การรักษาเนื้องอกในลูกตาด้วยการวางแร่ที่ตา บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ และบริการรักษาด้วยรังสีโปรตอน โดยให้เสนอคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและกลั่นกรองกรณีอุทธรณ์ พิจารณาและเสนอประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พิจารณาลงนามต่อไป นอกจากนี้ยังได้มอบ สปสช. ประสานและเตรียมระบบรองรับและจัดทำประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุข
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากบอร์ด สปสช. เห็นชอบในวันนี้แล้ว ทางสำนักงานฯ จะเร่งดำเนินการเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลโดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา สปสช. ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดเตรียมความพร้อมของระบบส่วนหนึ่ง ในการรองรับการให้บริการรถรับส่งผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วย 3 บริการทางการแพทย์ขั้นสูงนี้แล้ว โดยทันทีที่มีความพร้อมเริ่มให้บริการจะแจ้งให้ทราบต่อไป นอกจากเป็นการลดอุปสรรคในการเข้าถึงบริการ ยังช่วยลดภาระด้านค่าใช้จ่ายด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ต่างจังหวัดและห่างไกลจากโรงพยาบาลที่มีศักยภาพให้บริการ ที่มีค่าเดินทางสูงมาก
สำหรับโรงพยาบาลที่ให้บริการการแพทย์ขั้นสูงและร่วมจัดระบบรับส่งผู้ป่วย มีดังนี้ 1.บริการรักษามะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน ให้บริการโดย รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย 2.บริการรักษาเนื้องอกในลูกตาด้วยการวางแร่ที่ตา ให้บริการโดย รพ.รามาธิบดี และ 3.บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ตรงและทวารหนัก และเนื้องอกหรือการอักเสบของตับอ่อน มีโรงพยาบาลที่ร่วมให้บริการรักษา 7 แห่ง ประกอบด้วย รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช รพ.ราชวิถี รพ.สงขลานครินทร์ รพ.ตำรวจ และ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ โดยในส่วนของการร่วมจัดระบบรถรับส่งมี รพ.จุฬาลงกรณ์ฯ รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช และ รพ.ราชวิถีที่ตอบรับร่วมจัดบริการแล้ว