สปส.ตั้งอนุฯ เฉพาะกิจศึกษาสูตรบำนาญใหม่ CARE คาดเสร็จ 30 มิ.ย.นี้
ประกันสังคม ตั้งอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ ศึกษาสูตรบำนาญชราภาพใหม่ CARE คาดเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อเสนอต่อบอร์ดสปส.ตัดสินใจ
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 68 นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เผยถึงพัฒนาสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับเงินบำนาญ ชราภาพด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีคำนวณสูตรบำนาญชราภาพเป็นสูตรใหม่ ที่เรียกกันจนติดปากว่า บำนาญสูตร CARE (Career-Average Revalued Earnings) ที่ยึดหลักความสอดคล้องทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำเนินชีวิตของผู้ประกันตนวัยเกษียณ
โดยสูตรคำนวณบำนาญเดิมของสำนักงานประกันสังคม(สปส.)นั้น ใช้ค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบในช่วง 60 เดือนสุดท้ายมาเฉลี่ยเพื่อใช้เป็นฐานค่าจ้างในการคำนวณบำนาญส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่มีค่าจ้างลดลงในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นสภาพความเป็นผู้ประกันตน ทำให้บำนาญที่ได้รับไม่สอดคล้องกับการครองชีพที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม จึงจำเป็นต้องมีการปรับสูตรบำนาญให้เหมาะสมและเป็นธรรมยิ่งขึ้น
คณะกรรมการประกันสังคม จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) โดยมี รศ.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาด้านการเงินการคลังของคณะกรรมการประกันสังคม เป็นประธาน และมีองค์ประกอบอื่น ๆ จากทั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ผู้แทนจากองค์กรภาครัฐ และผู้แทนสำนักงานประกันสังคม จากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 2 ครั้ง (ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568)
โดยอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาการปรับสูตรใน 2 ประเด็น คือ การกำหนด index สำหรับใช้ในการปรับค่าจ้างในอดีตให้เป็นมูลค่าปัจจุบัน และวิธีคำนวณค่าจ้างเฉลี่ย สำหรับคำนวณบำนาญ โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้รับบำนาญทุกคน
นอกจากนี้ ได้พิจารณาแนวทางการรับฟังความคิดเห็น และการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรู้ความใจในการปรับสูตรบำนาญครั้งนี้ โดยอนุกรรมการได้เสนอให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศใน 4 ภาค และจัดทำแบบสำรวจความคิดของผู้ประกันตนผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อรับฟังความเห็นเพิ่มเติม และสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นนำเสนอต่อคณะกรรมการประกันสังคมต่อไป
ด้าน รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาการเงินการคลัง คณะกรรมการประกันสังคม กล่าวในช่วงท้ายว่า ทางอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรคำนวณฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินการให้รวดเร็ว รอบคอบและรัดกุมเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ประกันตนทุกกลุ่มพร้อมทั้งดูแลความยั่งยืนของกองทุนด้วย และมีความมั่นใจว่าจะสามารถส่งผลการศึกษาการปรับสูตรบำนาญให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการประกันสังคมตัดสินใจต่อไป
การเปลี่ยนแปลงสูตรคำนวณบำนาญจากเดิมคิดฐานคำนวณจากค่าเฉลี่ย 60 งวดเดือนสุดท้าย (Final Averaged Earning, FAE) มาเป็นคิดฐานคำนวณจากค่าเฉลี่ยของค่าจ้างตลอดการทำงานที่ปรับคืนมูลค่าแล้ว (Career Average-Revalued Earning, CARE) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลมากกว่า สร้างความเป็นธรรมได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม บำนาญสูตร CARE นี้ต้องมีการปรับคืนค่า (REVALUE) ค่าจ้างจำเป็นต้องใช้ดัชนีการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างมาปรับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกันตนทุกกลุ่มให้มากที่สุด ซึ่งตรงนี้เราต้องพิจารณาอย่างรอบคอบรอบด้าน วางระบบให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ระยะยาว
นอกจากนี้ กองทุนประกันสังคมก็เป็นกองทุนเปิด (Open-end Fund) ที่มีสมาชิกหรือผู้ประกันตนเข้ามาส่งเงินสมทบทั้งชั่วคราวและต่อเนื่อง สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ทั้ง กลุ่มเริ่มทำงานใหม่ ผู้ที่ส่งเงินสมทบต่อเนื่อง ผู้หยุดส่งเงินสมทบไม่ว่าจะถูกเลิกจ้าง ทุพพลภาพ เกษียณอายุ หรือ เสียชีวิต ระบบประกันสังคมก็จะดูแลให้ครอบคลุมทั้งหมด
“สังคมไทยนั้นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน เป็นความท้าทายในการต้องสร้างระบบบำนาญที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพภายใต้ระบบประกันสังคมเพื่อดูแลผู้ประกันตนวัยเกษียณได้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดี” รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าว