รู้จัก “ยาอัลปราโซแลม” ยาควบคุม มีประโยชน์ต่อผู้ป่วย หากใช้ทางที่ผิด มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
รู้จัก “ยาอัลปราโซแลม” (alprazolam) วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นยาควบคุมการใช้ มีประโยชน์ต่อผู้ป่วย แต่หากใช้ผิดวัตถุประสงค์ ต้องรับโทษทั้งจำคุก และปรับ
ตามที่มีการนำเสนอข่าว ระบุว่า แพทย์หญิง ยศ พ.ต.อ. สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ (หมอแอร์) ถูกจับกุมหลังแอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ มีเงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท และสามารถตรวจยึดของกลางในแฟลตตำรวจได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือที่มักเรียกกันในกลุ่มที่นำไปใช้ในทางที่ผิดว่า ยาเสียสาว ทำให้หลับและเคลิ้มไป โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) พบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาตั้งแต่ปี 2565-2568 จำนวน 15 ล้านบาท จึงประสานร่วมทางตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา เงินหมุนเวียนสูงถึง 80 ล้านบาท และในวันพรุ่งนี้(11 มิ.ย.) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรมต.ประจำสธ.เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ 11 คลินิกดังกล่าวในวันพรุ่งนี้(11 มิ.ย.)
รู้จักยาอัลปราโซแลม
ผู้สื่อข่าว Hfocus ได้รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เกี่ยวกับ “ยาอัลปราโซแลม” ดังนี้
ยาอัลปราโซแลม (alprazolam) เป็นยากลุ่ม benzodiazepine ที่ออกฤทธิ์สั้นหรือนานปานกลาง เช่นเดียวกับ lorazepam ใช้สำหรับรักษาอาการวิตกกังวล สงบระงับ และช่วยให้นอนหลับ มีการดูดซึมยาภายใน 1-2 ชั่วโมง
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่นๆ ที่พบ เช่น คลายกล้ามเนื้อลาย (muscle relaxants) ต้านอาการชัก (antiepileptics) ทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ (anterograde amnesia) ความสามารถในการเรียนรู้ และความจำลดลง สมรรถภาพในการทำงานที่ต้องใช้ความชำนาญ หรือการตัดสินใจฉับพลันเสื่อมลง
เนื่องจากยานี้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางจึงมีผู้ที่นำยานี้มาใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด เช่นที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การติดยา การใช้ยากลุ่ม benzodiazepines ในขนาดสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการ ติดยาทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งถ้าหยุดยาทันทีจะเกิดอาการขาดยาหรือถอนยา เช่น คลื่นไส้ นอนไม่หลับ มือสั่น หัวใจเต้นเร็ว ซึมเศร้า เป็นโรคจิต หรืออาจถึงกับชักได้
คำเตือนหรือข้อควรระวัง
1. อาจทำให้ง่วงซึมไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือ ในที่สูง
2. ห้ามดื่มสุรา หรือสิ่งที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่
3. อาจเกิดผลตรงข้ามกับฤทธิ์ของยาที่ให้ (paradoxical reaction)
4. อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือด ตับ หรือไตได้
5. สตรีมีครรภ์ สตรีระยะให้นมบุตร โรคต้อหิน โรคไมแอส ตีเนียแกรวีส (myasthenia gravis) โรคพอร์ไฟเรีย (porphyria) หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
6. ไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน นอกจากแพทย์สั่ง
7. หากใช้ร่วมกับยาอื่น เช่นยากดหรือกระตุ้นประสาท ยาคุมกำเนิด ยาต้านฮิสตามีน รวมทั้ง cimetidine ควรปรึกษาแพทย์
8. หากมีอาการนอนไม่หลับ ประสาทหลอน พฤติกรรมผิดปกติ กล้ามเนื้อเปลี้ย หรือมีไข้ ควรหยุดใช้ยาทันทีและรีบปรึกษาแพทย์
บทลงโทษตามกฎหมาย
เดิมยานี้จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 แต่ จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง เปลี่ยนแปลงประเภทวัตถุออกฤทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 ซึ่งยกระดับการควบคุมอัลปราโซแลม (alprazolam) จากวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2
สำหรับปัจจุบัน (alprazolam) ควบคุมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น และต้องมีการจัดทำรายงาน คือ ผู้รับอนุญาต ต้องจัดให้มีการทำบัญชีรับ-จ่ายวัตถุออกฤทธิ์ และเสนอรายงานให้เลขาธิการทราบเป็นรายเดือนและรายปี บัญชีดังกล่าวต้องเก็บรักษาไว้และพร้อมที่จะแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทุกเวลาขณะเปิดดำเนินการ
สำหรับบทกำหนดโทษยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด คลิกดูตามไฟล์แนบด้านล่าง