มูลนิธิทำทาง จี้บอร์ดแพทย์ ประกันสังคม บังคับใช้ “ทำแท้งถือเป็นสิทธิรักษา”
มูลนิธิทำทาง ยื่นหนังสือบอร์ดการแพทย์ประกันสังคมติดตามการบังคับใช้นโยบาย “ทำแท้งถือเป็นสิทธิรักษา” ให้ผู้ประกันตน หลังการบังคับใช้จริงไม่คืบ บางคนถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่าย
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ.นนทบุรี มูลนิธิทําทาง (Tamtang Foundation) เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องต่อคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม เพื่อติดตามความคืบหน้าของการบังคับใช้นโยบาย “ทำแท้งถือเป็นสิทธิรักษา” ภายหลังจากสำนักงานประกันสังคมมีประกาศเรื่องแนวทางการให้การดูแลผู้ประกันตนที่มีความจำเป็นต้องได้รับการยุติการตั้งครรภ์ เลขที่ รง 0626/ว2225 ออกมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา
เนื่องจากครบกำหนด 3 เดือนหลังเผยแพร่คำสั่ง แต่การบังคับใช้ยังไม่คืบหน้า ส่งผลให้มีผู้ประกันตนไทย-ต่างชาติถูกปฏิเสธบริการทำแท้ง หรือต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเอง โดยมีนพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ประธานคณะกรรมการการแพทย์ เป็นผู้รับหนังสือ
น.ส.ธนพร วิจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และหนึ่งในคณะทำงานมูลนิธิทำทาง เปิดเผยว่า จากที่ สปส.มีประกาศเรื่องแนวทางการให้การดูแลผู้ประกันตนที่มีความจำเป็นต้องได้รับการยุติการตั้งครรภ์ แต่การบังคับใช้ยังไม่คืบหน้า สปส. จึงควรมีการสื่อสารกับทางโรงพยาบาลที่อยู่ในระบบประกันสังคม ควรจะมีแพทย์ที่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ หรือหากไม่มีก็จะต้องยื่นใบส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ประกาศที่ออกมานั้นดีอยู่แล้ว แต่อยากให้ออกบังคับใช้ประกาศหรือร่างกฎหมายที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
น.ส.ชนฐิตา ไกรศรีกุล ผู้จัดการมูลนิธิทำทาง กล่าวว่า ขอชื่นชมว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก ที่ สปส.มองเห็นการยุติการตั้งครรภ์เป็นส่วนหนึ่งของบริการทางการแพทย์ เป็นสิทธิรักษาที่ผู้ประกันตนควรได้รับ แต่เราจะทำอย่างไรให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริงๆ จึงขอให้มีการพูดคุยหารือร่วมกัน เพื่อเสนอแนวทางในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
ด้านนพ.สุรเดช กล่าวว่า เรื่องเสนอแนวทางพูดคุยหารือในรายละเอียด จะมีการกำหนดวันที่ชัดเจนกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บอร์ดแพทย์ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานต่างชาติที่อยู่ภายใต้ระบบประกันสังคมเดียวกัน จะต้องได้รับสิทธิโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติส่วนของแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการการแพทย์ชุดปัจจุบัน เรามุ่งเน้นไม่เพียงแค่การออกประกาศให้สิทธิ แต่จะต้องทำให้แน่ใจว่า ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงสิทธินั้นได้จริง อย่างสะดวก และเป็นธรรม
“ขอเน้นย้ำไปยังผู้ให้บริการด้านการแพทย์ว่า หากสถานพยาบาลแห่งใดไม่สามารถให้บริการสิทธิการยุติการตั้งครรภ์ตามสิทธิประกันสังคมได้ ก็มีหน้าที่ในการส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบริการที่สามารถดำเนินการได้ โดยผู้ประกันตนไม่ควรต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด หากมีใครเรียกเก็บขอให้แจ้งมาที่กองทุนฯจะดำเนินการทันที ”นพ.สุรเดช กล่าว