อาการ “โรคตาแดง” กับวิธีรักษาและป้องกัน
“โรคตาแดง” คือ อาการที่เยื่อบุดวงตาทั้ง 2 ข้างหรือข้างใดข้างหนึ่งเป็นสีแดงจากหลอดเลือดฝอยที่เยื่อตาขยายตัว มักเกิดจากการอักเสบหรือการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุตา สามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การขยี้ตา การสัมผัสดวงตา ฝุ่นผงเข้าตา ตาแห้ง การบาดเจ็บบริเวณดวงตา หรือเนื้อเยื่อดวงตาเกิดการติดเชื้อ เป็นต้น อาการตาแดงพบได้ในทุกเพศทุกวัย
วิธีรักษา
– ใช้ยาปฏิชีวนะหรือน้ำตาเทียมตามแพทย์สั่ง
๐ ไม่ควรหยอดข้างที่ไม่เป็นเพราะจะเป็นการแพร่เชื้อไปยังตาอีกข้าง
๐ ไม่ควรใช้ยาร่วมกับผู้อื่น
– ถ้าอักเสบมาก แพทย์อาจให้ยาหยอดลดการอักเสบ
– รับประทานยาแก้ปวด หากเจ็บหรือเคืองตามาก
– หากมีขี้ตาให้ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดแล้วเช็ดบริเวณเปลือกตา
– ใช้น้ำเกลือทำความสะอาดตา
– ควรใส่แว่นกันแดด กันลม ลดการแพ้แสง
– งดใส่คอนแทคเคนส์ จนกว่าจะหายอักเสบ
– ประคบเย็นที่เปลือกตา ช่วยบรรเทาอาการปวด
– หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
การป้องกัน
– แยกผู้ป่วยจากการแพร่เชื้อ โดยหยุดเรียนหรือหยุดงาน และกักตัวในที่พักอาศัย
– ไม่จับบริเวณดวงตาหรือขยี้ตา
– ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
– ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ ครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยตาแดงและมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
– การมองเห็นเปลี่ยนไป หรือมองเห็นแสงกระจายเป็นรัศมีรอบ ๆ ดวงไฟ
– ตาไวต่อแสง
– รู้สึกเหมือนมีอะไรในตา
– มีวัตถุแปลกปลอมในตา หรือสารเคมีเข้าตา
– มีอาการบวมในหรือนอกดวงตา
– ลืมตาหรือหลับตาไม่ได้
– ปวดตา
– ปวดหัวรุนแรง หรือปวดหัวร่วมกับอาการสับสนและมองเห็นไม่ชัด
– เป็นไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
– คลื่นไส้ อาเจียน