เริ่มแล้ว กัมพูชาฉีดวัคซีนโดส 3 ให้บุคลากรด่านหน้า-ข้าราชการ-กองกำลังตามแนวชายแดน
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 64 ออร์ แวนดิน รัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา เผยว่ากัมพูชาจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดสที่ 3 หรือโดสกระตุ้น ให้บุคลากรการแพทย์แนวหน้า ข้าราชการ และกองกำลังติดอาวุธใน 7 จังหวัดตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย ได้แก่ พระตะบอง บันทายมีชัย ไพลิน เกาะกง อุดรมีชัย โพธิสัตว์ และพระวิหาร ในวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) นี้
พร้อมชี้ว่า “เป้าหมายของการดำเนินการครั้งนี้คือเพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ซึ่งอาจแพร่ระบาดทั่วชุมชนเป็นวงกว้าง หากไม่ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างทันท่วงที ทั้งนี้วัคซีนแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักรจะถูกใช้เป็นวัคซีนโดสกระตุ้น ให้กับผู้ที่เคยฉีดวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์มของจีนเป็นสองโดสแรก”
เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (1 ส.ค.) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่ากัมพูชาตัดสินใจใช้วิธีฉีดผสมระหว่างวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม กับแอสตราเซเนกา ซึ่งหมายความว่าผู้ที่เคยฉีดวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม จะได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นโดสที่ 3 ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นสองโดสแรก พวกเขาจะได้รับวัคซีนฝีมือจีนเป็นโดสที่ 3
ทั้งนี้ กัมพูชาได้เปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ใหญ่ในวันที่ 10 ก.พ. และสำหรับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ในวันที่ 1 ส.ค. โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชน 12 ล้านคน ซึ่งแบ่งเป็นผู้ใหญ่ 10 ล้านคน และวัยรุ่น 2 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของประชากร 16 ล้านคน ภายในเดือน พ.ย. นี้ โดยกระทรวงฯ ระบุว่ากัมพูชาฉีดวัคซีนให้ประชาชนรวมแล้ว 7.92 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้ใหญ่ 7.7 ล้านคน และวัยรุ่น 227,608 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 49.55 ของประชากรทั้งหมด เมื่อนับถึงวันที่ 6 ส.ค.