วันที่ 28 ก.ย. 64 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “วีโอเอไทย” ที่กรุงวอชิงตัน เกี่ยวกับความคืบหน้าการเจรจาจัดหาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของไทยในเวทีโลก โดยระบุว่า ขณะนี้หลายประเทศในยุโรป เช่น สเปน โปแลนด์ ฮังการี ฯลฯ ตกลงขายและบริจาควัคซีนโควิดให้ไทยอย่างน้อย 20 ล้านโดส โดยจะเป็นวัคซีนของไฟเซอร์ราว 8 ล้านโดส และวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าราว 12 ล้านโดส

นายดอน ระบุว่า ในเบื้องต้น ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และสภากาชาดไทย จะเป็นสองหน่วยงานที่ดำเนินการรับจัดซื้อและรับบริจาควัคซีนจากยุโรปในครั้งนี้ โดยคาดการณ์ว่าหากสามารถดำเนินการได้เร็ว วัคซีนจำนวนดังกล่าวจะทยอยมาถึงไทยในช่วงปลายปีนี้หรือไตรมาสแรกปีหน้า อย่างไรก็ตาม นายดอน ก็ยอมรับว่า การดำเนินการจัดหาวัคซีนจากประเทศต่างๆ ในขณะที่มีการระบาดใหญ่ ทำให้มีบางครั้งที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน แต่ต้องไม่ลืมว่ามีประเทศต่างๆ มากมายที่ต้องการวัคซีน ไม่ใช่แค่เราประเทศเดียว

รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศของไทย ระบุเพิ่มเติมว่า จากจำนวนวัคซีนโควิดที่ไทยจัดหามาได้นั้น คาดว่าจะได้วัคซีนไฟเซอร์รวมราว 30 ล้านโดส และวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าทั้งที่ผลิตเองในประเทศไทยและที่จัดหาจากต่างประเทศรวม 64 ล้านโดส นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ระบุว่า ไทยมีแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงธันวาคม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 178.2 ล้านโดส ประกอบด้วยวัคซีนหลัก ได้แก่ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ และวัคซีนทางเลือก ได้แก่ ซิโนฟาร์ม และโมเดอร์นา

ทางด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันอังคาร (28 ก.ย.) ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมควบคุมโรคดำเนินการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจากสเปน เพิ่มเติมอีกจำนวน 165,000 โดส จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 14 กันยายน ให้กรมควบคุมโรคจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจากสเปน จำนวน 449,500 โดส รวมทั้งสิ้นจำนวน 614,500 โดส โดยกำหนดส่งมอบวัคซีนทั้ง 2 ชุดภายในต้นเดือนตุลาคมนี้

ทั้งนี้ นายดอนอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 76 ที่มหานครนิวยอร์ก และเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ และพบปะชุมชนไทย โดยกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันพุธนี้ (29 ก.ย.)