นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการาชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผยถึงกรณีความคิดเห็นเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์โอมิครอน อ้างอิงตารางสรุปจาก Tweeter ของ Eric Topol โดยมีเนื้อหาใจความดังนี้

จากข้อมูลในสัตว์ทดลองและนอกตัวคนพบว่า เชื้อโอมิครอนทำร้ายเซลล์ปอดได้ไม่ดีนัก ขณะที่บางความเห็นระบุว่า คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และคนที่เคยติดโควิดมาก่อนหน้านี้ยังมีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ ส่วนบางกลุ่มตั้งข้อสังเกตว่า คนบางกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว เป็นต้น อาจทีภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอ

ขณะเดียวกันมีบางความเห็นที่กล่าวว่า เชื้อโอมิครอนแพร่เร็ว แต่อาการไม่หนัก (ในบางประเทศและบางกลุ่ม) จึงทำให้หลายๆ คนบอกว่าไปรับเชื้อเสียดีกว่าให้รู้แล้วรู้รอดไป ส่วนกลุ่มที่เห็นต่างบอกว่าเรามีทางมีมาตรการอีกมากมายที่ลดการแพร่กระจายได้ เช่น หน้ากาก ระยะห่าง การถ่ายเทอากาศ และการล้างมือ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องยารักษาโควิดโอไมครอน นพ.นิธิ ให้ความเห็นว่า จะไม่มีการกล่าวถึง เนื่องจาก กว่าจะมีการเริ่มใช้ยารักษา โอไมครอนน่าจะหมดไปเสียก่อน

ทั้งนี้ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้กล่าวถึง 5 ข้อการปฏิบัติส่วนตัวในปี 2565 เพิ่มเติมว่า

1.ไม่ตื่นเต้นกับการระบาดของโอมิครอนจนเกินเหตุ

2.จะฉีดวัคซีนกระตุ้นตามระยะเวลาเดิม ไม่รีบร้อนฉีดเร็วเกินเพื่อโอมิครอนโดยเฉพาะ

3.รับผิดชอบทั้งตัวเองและคนรอบข้างด้วยความสำนึกที่ไม่ไปแสวงหาให้สัมผัสโอมิครอนตามที่อโคจรหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง

4.ถ้ามีอาการหวัดหรืออาการคล้ายหวัดจะป้องกันเต็มที่ที่จะไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น (หลาย ๆ คนลืมไปว่าการใส่หน้ากากที่ถูกต้องนั้นวัตถุประสงค์สำคัญคือกันไม่ให้เราแพร่เชื้อไปให้คนอื่นโดยไม่ตั้งใจ

5.ระวังการสัมผัสพบผู้สูงอายุหรือมีโรคเรื้อรัง จนกว่าโควิดโอมิครอนจะผ่านไป

พร้อมเน้นย้ำว่า อย่าเสี่ยง อย่าประมาท อย่าคิดว่าจะไม่เกิดกับเรา และที่สำคัญต้องจำคืออย่าทำร้ายคนที่คุณรัก

“ผมยังทำนายเหมือนเดิมว่า ไม่เกินกรกฎาคมสิงหาคมปี 2565 เจ้าโควิดจะกลายไปเป็นระบาดตามฤดูกาลเท่านั้น ในปีหน้า เราอาจต้องฉีดวัคซีนอีกหนึ่งหรือสองครั้ง (แล้วแต่ชนิดวัคซีน) เท่านั้น หลังจากนั้นก็ปีละครั้งก่อนระบาด (อาจเป็นสองครั้งในบางปี) และขอให้ทุก ๆ ท่านมีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคทั้งทางกายทางใจ และมีสติมีปัญญาในการรู้อยู่กับการระบาดนี้ไปด้วยกัน โดยไม่ตื่นเต้นตื่นตระหนกครับ” นพ.นิธิ กล่าวทิ้งท้าย