ลงดาบรพ.เอกชน รักษาโควิด อ้างให้ยาฟาวิพิราเวียร์ แต่ไม่ได้ขออนุญาตจริง
วันที่ 13 ก.ค. 65 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรพ.เอกชน ย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังมีการนำเสนอโฆษณาแพ็กเกจรักษา ‘โควิด’ โดยรพ.ไม่ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติให้จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์หรือยาโมลนูพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยนำไปรับประทานระหว่างกักตัวตามอาการ
ทั้งนี้ยาฟาวิพิราเวียร์หรือยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาควบคุมพิเศษ ซึ่งต้องสั่งจ่ายและต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้น กฎหมายจึงกำหนดให้สถานพยาบาลห้ามทำการโฆษณายา นอกจากได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน จึงจะมาขออนุมัติโฆษณาจาก สบส.
โดยรพ.เอกชนดังกล่าวไม่ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติ และไม่ได้รับอนุมัติให้โฆษณา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาการกระทำผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 38 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา” นพ.ธเรศกล่าว
นพ.ธเรศกล่าวว่า การโฆษณาแพ็กเกจการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์หรือยาโมลนูพิราเวียร์ ก็เป็นการจ่ายยาตามอาการโดยไม่ได้จ่ายยาให้กับผู้ป่วยในทุกราย ทำให้ผู้รับบริการเกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล ว่าเมื่อเข้ารับบริการแล้วจะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์ จึงถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 38 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว
ยาทั้งสองนี้ ภาครัฐจะจัดสรรให้สถานพยาบาลนำมาให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิดตามอาการอย่างเพียงพอ โดยไม่มีการจำหน่ายแต่อย่างใด ดังนั้นประชาชนไม่ควรซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมลนูพิราเวียร์ ที่มีการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล เนื่องจากอาจจะได้รับยาปลอม หรือไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงยาที่ไม่ถูกกฎหมายทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า ในการโฆษณาหรือประกาศทางการค้าของสถานพยาบาล จะต้องยื่นเรื่องขออนุมัติจากผู้อนุญาต โดยยื่นขออนุมัติต่อ สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จึงจะสามารถเผยแพร่ได้ ซึ่งโฆษณาของสถานพยาบาลที่ผ่านการอนุมัติจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่เป็นข้อมูลเท็จหรือโอ้อวดเกินจริง หรือหลอกลวง ลดปัญหาการฟ้องร้อง และเกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันด้านธุรกิจสถานพยาบาลในมาตรฐาน
ทั้งนี้จึงขอให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งดำเนินการตามกฎหมายการโฆษณา มาตรฐานการรักษาทางการแพทย์ อย่างการสั่งจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องสั่งจ่ายและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ติดตามอาการข้างเคียงและผลการรักษาระหว่างใช้ยา หากมีการใช้ยาที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้