สธ.เผยค่าเสี่ยงภัยโควิด 3 พันล้านบาท รอสำนักงบประมาณจัดสรร หากมาถึงพร้อมจ่ายแน่นอน
รองปลัดสธ.เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือภาระหนี้สินบุคลากรสธ. ล่าสุดประสานธนาคารออมสินหารือสหกรณ์ออมทรัพย์อัตราดอกเบี้ยต่ำ เบื้องต้นมี 2-3 สหกรณ์ภาคอีสานใช้ช่องทางดังกล่าวแล้ว ขณะที่นโยบายช่วยเหลือบุคลากรดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งภาระงาน ความก้าวหน้า ค่าเสี่ยงภัยโควิดรอสำนักงบประมาณ หลังครม.อนุมัติ 3 พันล้านบาท
สธ.ดันแนวทางช่วยภาระหนี้บุคลากร
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ Hfocus ถึงแนวทางช่วยเหลือบุคลากร สธ. ที่มีเรื่องภาระหนี้เสีย อย่างกลุ่ม NPL ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ว่า จากการหารือร่วมกับธนาคารออมสินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางธนาคารยินดี และแจ้งไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่มีบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อยู่เกี่ยวกับสินเชื่อที่จะเอื้อต่อสหกรณ์ว่า มีอัตราดอกเบี้ยต่ำจำนวนเท่าไหร่ อย่างไรบ้างแล้ว ซึ่งทั้งหมดดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล มีตัวอย่างจากกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ และตำรวจ ทำสำเร็จมาแล้ว ล่าสุดมีสหกรณ์ฯทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมตามช่องทางนี้แล้ว
“จะเป็นอีกแนวทางช่วยเหลือกลุ่มที่เป็นหนี้ หรือต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงๆ หนี้นอกระบบ ก็จะมีทางออกตรงนี้ ลดดอกเบี้ยได้ ซึ่งธนาคารออมสินก็ยินดี โดยจะมีวงเงิน ขึ้นอยู่กับสหกรณ์ต่างๆ ประสานมา ปัจจุบันมีสหกรณ์ 2-3 แห่งทางภาคอีสานเนินการแล้ว หากสนใจก็ติดต่อสอบถามสหกรณ์ของตนเองได้” รองปลัดสธ. กล่าว
สำนักงบฯยังไม่ได้จัดสรรค่าเสี่ยงภัยโควิดลงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีช่วยภาระหนี้สินบุคลากรในเรื่องกู้เงินดอกเบี้ยต่ำแล้ว ประเด็นเงินค่าเสี่ยงภัยโควิดที่บุคลากรกำลังรอ มีความคืบหน้าหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ค่าเสี่ยงภัยโควิดก็อย่างที่เคยให้ข้อมูลไปว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการรวบรวมข้อมูลเรียบร้อยแล้ว และส่งเรื่องไปยังสำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณมา หากมาถึงเราก็จ่ายได้เลย แต่ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอน ซึ่งสธ.เสนอไปตัวเลขเดิมคือ ประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายค่าเสี่ยงภัยโควิดตามที่ ครม.อนุมัติก่อนหน้านี้
สธ.ร่วม ก.พ. เดินหน้านโยบายสิทธิสวัสดิการ ความก้าวหน้าอื่นๆ
รองปลัด สธ. กล่าวอีกว่า จริงๆสธ.มีการดำเนินการนโยบายสิทธิสวัสดิการต่างๆ ความก้าวหน้าบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขมาตลอด อย่างล่าสุดภายหลังที่ประชุมร่วมสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาภาระงาน ความก้าวหน้า และขวัญกำลังใจบุคลากร ท่านปลัดสธ.ได้ให้รวบรวมผลการประชุม ซึ่งท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ท่านรณภพ ปัทมะดิษ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย และให้นำผลดังกล่าวส่งไปยังสำนักงาน ก.พ. โดยมีท่านเลขาฯ ก.พ.รับเรื่องดังกล่าวเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบและให้ความเห็นต่อไป
ดังนั้น ระหว่างรอที่ประชุม ครม.พิจารณา เราได้มีการทำงานคู่ขนานกันไปด้วย โดยมีคณะทำงานร่วมระหว่าง ก.พ.และสธ. ซึ่งในส่วนกระทรวงสาธารณสุข มีพญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 เป็นประธานร่วม