วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกผึ้งต่อย
เมื่อ “ถูกผึ้งต่อย” การปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธีและรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีหลายคนที่ไม่รู้ตัวว่าแพ้พิษผึ้งหรือไม่ บางคนอาจจะไม่แสดงอาการแต่บางคนก็แพ้หนักถึงขั้นอันตรายต่อชีวิตเลยก็ได้ วันนี้เรารวบรวมวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้องมาให้
1. ประเมินสถานการณ์เบื้องต้น
เมื่อถูกผึ้งต่อย ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการปฐมพยาบาล สิ่งแรกที่ควรทำคือการประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว หากอยู่ในบริเวณที่มีผึ้งหลายตัว ให้รีบออกจากพื้นที่นั้นทันที เนื่องจากผึ้งจะปล่อยฟีโรโมนเพื่อดึงดูดผึ้งตัวอื่นๆ มาต่อยเพิ่มเติม การเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ และสงบนิ่งจะช่วยลดโอกาสการถูกต่อยซ้ำได้
2. กำจัดเหล็กในออก
ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบว่ามีเหล็กในยังคาอยู่ที่บริเวณที่ถูกต่อยหรือไม่ เพราะผึ้งจะทิ้งเหล็กในไว้ที่ผิวหนังหลังจากต่อย ซึ่งจะยังคงปล่อยพิษต่อไปแม้ว่าผึ้งจะบินจากไปแล้ว วิธีที่ถูกต้องในการกำจัดเหล็กในคือการใช้วัตถุที่มีขอบตรง เช่น บัตรเครดิตหรือเล็บมือ ขูดออกอย่างเบามือ โดยระวังไม่ให้บีบถุงพิษที่ติดอยู่กับเหล็กใน เพราะอาจทำให้พิษถูกปล่อยออกมามากขึ้น
3. ล้างบริเวณที่ถูกต่อยให้สะอาด
หลังจากกำจัดเหล็กในแล้ว หลังถูกผึ้งต่อย ขั้นตอนต่อไปในการปฐมพยาบาล คือการล้างบริเวณที่ถูกต่อยด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน ๆ เพื่อทำความสะอาดและลดโอกาสการติดเชื้อ จากนั้นให้ประคบเย็นบริเวณที่ถูกต่อยเพื่อลดอาการบวมและปวด โดยใช้ถุงน้ำแข็งหรือผ้าเย็นประคบเป็นเวลา 10-15 นาที ทำซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงตามความจำเป็น
4. การใช้ยาบรรเทาอาการ
ในกรณีที่มีอาการปวดหรือคันมาก สามารถใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่แอสไพริน เช่น พาราเซตามอล หรือยาแก้แพ้ชนิดรับประทานเพื่อบรรเทาอาการได้ นอกจากนี้ การทายาแก้แพ้หรือยาทาสเตียรอยด์เฉพาะที่ก็สามารถช่วยลดอาการคันและบวมได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่ไม่สามารถปฐมพยาบาลด้วยตัวเองได้ เพราะแพ้พิษผึ้งอย่างรุนแรงผึ้ง จึงต้องรีบรักษาทางการแพทย์โดยด่วน โดยเฉพาะในผู้ที่แพ้พิษผึ้งอย่างรุนแรง ซึ่งหากใครมีอาการเหล่านี้ให้รีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน
– หายใจลำบาก หรือมีเสียงหวีดในลำคอ
– บวมที่ลิ้น คอ หรือใบหน้า
– เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือหมดสติ
– คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียอย่างรุนแรง
– ใจสั่น หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
– ผื่นลมพิษขึ้นทั่วร่างกาย