ข้อดีเมื่อใช้ “ไหมขัดฟัน”
ใช้ “ไหมขัดฟัน” แล้วทำให้ฟันห่างหรือไม่?
การใช้ “ไหมขัดฟัน” เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทันตแพทย์ยืนยันว่าสามารถทำความสะอาดฟัน กำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการใช้ไหมขัดฟันบ่อยๆ ไม่ได้ทำให้ฟันห่างแต่อย่างใด เพราะการใช้ไหมขัดฟันเป็นการทำความสะอาดซอกฟัน ซึ่งอาจเป็นจุดที่แปรงสีฟันทำความสะอาดได้ไม่ถึง และควรใช้ไหมขัดฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียจากเศษอาหารที่เป็นสาเหตุของปัญหาฟันต่างๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นต้น
ประโยชน์ของ “ไหมขัดฟัน”
– ช่วยกำจัดเศษอาหารที่อาจติดอยู่ตามซอกฟัน
– ช่วยทำความสะอาดฟันที่ทำความสะอาดลำบาก เช่น ฟันกรามซี่ใน ซึ่งแปรงสีฟันอาจทำความสะอาดไม่ถึง หรือ ฟันเก
– ช่วยป้องกันฟันผุ หรือกลิ่นปากที่อาจเกิดจากการหมักหมมของเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน
– ช่วยลดการสะสมของหินปูน เพราะไหมขัดฟันช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ไม่ให้เกาะตัวจนแข็ง
– ช่วยลดปัญหาเหงือกอักเสบ เพราะมีคราบหินปูนที่อาจฝังแน่นบนผิวเคลือบฟัน
วิธีใช้ไหมขัดฟันให้ถูกต้อง
– เลือกไหมขัดฟันที่เหมาะสมกับเรา โดยมีไหมขัดฟันทั้งประเภทเส้นใยไนลอน ที่ลื่น และใช้ง่ายกว่า แต่จะบาง และขาดง่ายมากกว่า เหมาะกับมือใหม่หัดใช้ และแบบพลาสติกเส้นใยเดี่ยว ที่แข็งแรง เหนียว ทน มากกว่า แต่อาจแข็ง และบาดเหงือกจนเลือดไหลได้มากกว่า
– ดึงไหมขัดฟันออกมาราว 1 ฟุต หรือ 30 เซนติเมตร สามารถกะเอาด้วยสายตาได้ อย่าใช้ไหมขัดฟันที่สั้นจนเกินไป เพราะอาจทำให้ลื่นมือลื่นนิ้วจนใช้ไม่สะดวก
– พันไหมขัดฟันกับปลายนิ้วกลางทั้งสองมือ จนเหลือไหมยาวประมาณ 2-3 นิ้ว แล้วใช้นิ้วชี้ดันไหมลงไประหว่างซอกฟัน
– ใช้นิ้วโป้งช่วยบังคับให้ไหม “ขัดฟัน” ลึกลงไปถึงบริเวณเหงือก ให้ไหมล้อมฟันไปทางซ้าย และขวา ขยับสั้นๆ ให้เศษอาหารหลุดออกแล้ว แล้วค่อยดึงออก แล้วเลื่อนไปทำแบบเดียวกันกับซอกฟันอื่น
– พยายามอย่ากดไหมขัดฟันลงไปแรงมาก เพราะอาจทำให้เหงือกเป็นแผลมีเลือดไหลได้ แต่หากใครไม่เคยใช้ไหมขัดฟันเลย อาจพบเลือดไหลจากเหงือกได้บ้าง เหงือกจะค่อยๆ คุ้นชิน และแข็งแรง จนเวลาผ่านไปเลือดจะไม่ไหลขณะใช้ไหมขัดฟันได้เอง
– ควรใช้ไหมขัดฟันให้ครบทุกซอกฟัน อาจจะใช้ไหมขัดฟัน 2 รอบหากไม่แน่ใจ ใช้ก่อนแปรงฟัน และควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
– ไม่ว่าอย่างไรก็ยังต้องแปรงฟัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าหลังตื่นนอน และกลางคืนก่อนเข้านอนเป็นประจำทุกวัน