สสจ.อำนาจเจริญ แจ้งความคืบหน้าค่าเสี่ยงภัยโควิด19 หลังตกหล่นงบประมาณ รอหลัง 31 ม.ค.68
สสจ.อำนาจเจริญ แจ้งความคืบหน้าเงินค่าเสี่ยงภัยโควิด19 หลังตกหล่น ประสานกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สธ.แล้ว รองบคงเหลือหลัง 31 ม.ค.68 ก่อนดำเนินการส่งเรื่องขออนุมัติเบิกจ่ายเงินจากสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนงบค่าเสี่ยงภัยนอกสังกัด ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสาร หลังพบบางแห่งหลักฐานไม่ครบถ้วน ขอหน่วยงานนอกสังกัดทำความเข้าใจบุคลากร
ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบงบประมาณค่าตอบแทนให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานช่วงโควิด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – เดือนกันยายน 2565 รวมงบฯ กว่า 3,849.30 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าตอบแทนเสี่ยงภัยบุคลากรของหน่วยงานสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3,137.84 ล้านบาท และบุคลากรนอกสังกัดจำนวน 593.48 ล้านบาท ซึ่งภายในกระทรวงสาธารณสุข มีการดำเนินการ เหลือจ.อำนาจเจริญ เนื่องจากพบการตกหล่นจากงบประมาณ เพราะมีปัญหาเรื่องเอกสาร ที่ดำเนินการไม่เรียบร้อย จึงทำให้ไม่ได้รับค่าเสี่ยงภัยโควิดในรอบนี้
ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เคยให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและเตรียมเสนอของบประมาณที่ตกหล่นรอบนี้ต่อไป
ล่าสุดวันที่ 12 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดียตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา กรณี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ออกประกาศแจ้งความก้าวหน้าการติดตามค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด-19 โดยระบุว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ประสานกองสาธารณสุขฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามการเบิกจ่าย ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด-19 จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งงบประมาณการเบิกจ่ายจะทราบจำนวนคงเหลือทั้งหมด ในวันที่ 31 มกราคม 2568 หลังจากนั้นกระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงบประมาณ เพื่อขออนุมัติเบิกจ่ายเงินโดยเร็ว
ทั้งนี้ มีผู้ใช้ X รายหนึ่งแชร์ข้อมูลและระบุว่า “ จ.เดียวในประเทศ รับบทผู้ประสบภัย รอดูจะได้จริงไหม”
ส่วนงบค่าเสี่ยงภัยโควิดนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขนั้น รายงานข่าวที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ให้ข้อมูลว่า ปัญหาคือเอกสารของหน่วยงานนอกสังกัด เมื่อสอบถามรพ. นอกสังกัดสธ.ที่บุคลากรปฏิบัติงานช่วงโควิด พบว่า บางส่วนเอกสารไม่ครบถ้วน หรือไม่สามารถหาหลักฐานมารองรับได้ครบถ้วน ส่วนที่ส่งมาแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุข กำลังทยอยช่วยตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขก่อนเบิกจ่าย ซึ่งพยายามทำให้เร็วที่สุดแต่ต้องอยู่ในกรอบเงื่อนไข ส่วนจะทันเดือนมกราคม 2568 นี้หรือไม่ อยู่ที่หลักฐานของหน่วยงานเป็นสำคัญ
“ขอให้ทางหน่วยบริการ หรือรพ.นอกสังกัดสธ. แจ้งให้บุคลากรของตนให้ทราบอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับหลักฐาน หรือปัญหาที่ติดขัดว่ามาจากอะไร ไม่เช่นนั้นก็อาจเกิดความไม่เข้าใจต่อกันได้ เพราะการตรวจสอบเอกสารหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ครบจะไม่สามารถเบิกเงินแผ่นดินได้” รายงานข่าวกล่าว