“ขมิ้นชัน” สมุนไพรมากประโยชน์
“ขมิ้น” เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูลขิง เหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าจะเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดจัด คนนิยมนำไปใช้ในการประกอบอาหารเพื่อแต่งสีแต่งกลิ่น นอกจากนี้ยังถูกจัดเป็นสุดยอดสมุนไพรเนื่องจากสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย
ประโยชน์ของขมิ้น
– ขมิ้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยในการชะลอวัยและชะลอการเกิดริ้วรอย
– ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
– ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนังมีสุขภาพดีแข็งแรง
– ขมิ้นชันอาจมีบทบาทช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เช่น โรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งปากมดลูก
– ขมิ้นสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้
– ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
– ช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน
– มีส่วนช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
– ช่วยลดอาการของโรคเกาต์
– ช่วยขับน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
– ช่วยรักษาระบบทางเดินหายใจที่มีอาการผิดปกติ
– ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคความจำเสื่อม
– อาจมีส่วนช่วยในการรักษาโรครูมาตอยด์ (ยังไม่ได้รับการยืนยัน)
– ช่วยลดการอักเสบ
– ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ
– ช่วยรักษาอาการแพ้และไข้หวัด
– ช่วยบรรเทาอาการไอ
– ช่วยรักษาอาการภูมิแพ้ หายใจไม่สะดวกให้มีอาการดีขึ้น
– ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
– ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยธาลัสซีเมียฮีโมโกบิลอี
– ช่วยรักษาแผลที่ปาก
– ช่วยบำรุงปอดให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง
– น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง
– ช่วยรักษาอาการท้องเสีย อุจจาระร่วง โดยนำผงขมิ้นชันผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนแล้วนำมารับประทานครั้งละ 3 เม็ด 3 เวลา
– ช่วยแก้อาการจุดเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
– ช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบ
– ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้
– ช่วยรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวม
– ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร
– ช่วยในการขับลม
– ช่วยบรรเทาอาการนิ่วในถุงน้ำดี
– มีฤทธิ์ในการช่วยขับน้ำดี
– ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร และทำความสะอาดลำไส้
– ช่วยบำรุงตับ ป้องกันตับอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ และป้องกันตับจากการถูกทำลายของยาพาราเซตามอล
– ช่วยบำรุงหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง
– ช่วยป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
– ช่วยแก้อาการตกเลือด ด้วยการนำขมิ้นสดมาตำให้ละเอียด แล้วคั้นเอาน้ำมาผสมกับน้ำปูนใสแล้วรับประทาน
– ช่วยแก้อาการตกขาว
– ช่วยรักษาอาการปวดหรืออักเสบเนื่องจากไขข้ออักเสบ
– ช่วยแก้อาการน้ำเหลืองเสีย
– ช่วยแก้ผื่นคันตามร่างกาย
– ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ผดผื่นคัน
– ช่วยรักษากลาก เกลื้อน ด้วยการใช้ผงขมิ้นผสมกับน้ำ นำมาทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนทุกวัน วันละ 2 ครั้ง
– ช่วยรักษาโรคผิวหนังพุพอง ตุ่มหนองให้หายเร็วยิ่งขึ้น
– ช่วยรักษาแผลจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ ด้วยการนำขมิ้นมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วตำจนละเอียด คั้นเอาแต่น้ำมาทาบริเวณดังกล่าว
– มีฤทธิ์ในการต่อต้านและฆ่าเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง และต่อต้านยีสต์ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ
– ช่วยต่อต้านปรสิตหรือเชื้ออะมีบาที่เป็นต้นเหตุของโรคบิดได้
– ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส เช่น แบคทีเรียที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคท้องเสีย แบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง เป็นต้น
– มีฤทธิ์ในการต่อต้านการกลายพันธุ์ ต้านสารก่อมะเร็งที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคที่เกิดจากการเสื่อมของร่างกาย และโรคเบาหวาน
– ช่วยสมานแผลตามร่างกายให้หายเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการนำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำแล้วทาลงบนบาดแผล และยังช่วยให้บาดแผลไม่ให้ติดเชื้อของกระต่ายและหนูขาวได้ และสามารถเร่งให้แผลที่ติดเชื้อหายได้
– ขมิ้นยังมีสรรพคุณช่วยในการป้องกันการงอกของขนอีกด้วย โดยผู้หญิงชาวอินเดียมักนำขมิ้นมาทาผิวเพื่อป้องกันไม่ให้ขนงอก
– ขมิ้นชันขัดผิว ใช้ทำทรีตเมนต์พอกผิวขัดผิวด้วยขมิ้น ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล ขาวผ่องใส เต่งตึง ด้วยการนำขมิ้นสดมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปปั่นรวมกับดินสอพอง 2-3 เม็ด แล้วผสมกับมะนาว 1 ลูก ปั่นจนเข้ากัน นำมาพอกหน้าหรือผิวทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
– ขมิ้นเป็นส่วนประกอบของทรีตเม้นต์รักษาสิวเสี้ยน สิวผด สิวอุดตัน
– ขมิ้นเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งในเครื่องสำอางบำรุงผิวต่างๆ
– ช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืชได้อีกด้วย
ข้อควรระวัง
หากกินขมิ้นเพื่อต้องการรักษาโรค เมื่อกินจนโรคหายก็ควรหยุดกิน เพราะถึงจะมีประโยชน์ก็จริง แต่เมื่อร่างกายได้รับมากเกินความต้องการอาจจะกลายเป็นโทษแทน ซึ่งอาจส่งผลให้มีอาการ คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ ถ้ามีอาการเหล่านี้ให้หยุดกินทันทีแล้วหายาชนิดอื่นแทน