“สมศักดิ์” หนุนตั้งหน่วยเยียวยาจิตใจบุคลากรสาธารณสุข มอบกรมสุขภาพจิตดูแล
“สมศักดิ์” หนุน “ศูนย์ดูแลสุขภาพจิตบุคลากรสาธารณสุข” มอบกรมสุขภาพจิตดูแล เผยการทำงานร่วมกันต้องให้กำลังใจ สร้างพลังบวก ยึดหลัก “อึด ฮึด สู้” ลั่นนโยบายสร้างขวัญกำลังใจจะมุ่งค่าตอบแทนอย่างเดียวไม่ได้ ชูการลดผู้ป่วยโรคเอ็นซีดี จะลดการเข้ารักษาตัวในรพ. ทำให้ภาระงานบุคลากรลดลง ไม่ต้องทำงานเกิน 8 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ 2567 ภายใต้แนวคิด “ปลุกพลังใจ ก้าวไปพร้อมกัน” (Hopeful Hearts, Stronger Minds) โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต คณะผู้บริหาร และบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 1-7 พฤศจิกายน คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้เป็นสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ วันนี้จึงมีการจัดกิจกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับงานสาธารณสุข โดยธีมงานในวันนี้คือ พลังใจ อึด ฮึด สู้ เพื่อให้เกิดความอดทน พยายาม รวมพลัง ไม่ยอมแพ้ และสู้ ด้วยเหตุและผล เนื่องจากในยามวิกฤติ บางทีอาจลืมแนวทางปฎิบัติ ตนก็ขอให้นึกถึงแนวทางของกรมสุขภาพจิตด้วย
เมื่อถามถึงกรณีเภสัชกรเสียชีวิตจากภาวะเครียดในการทำงาน จะมีการกำชับหัวหน้าส่วนราชการอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คนทำงานบางครั้ง คนอื่นก็ดูไม่รู้ว่าเครียด ดังนั้น ต้องมีการแนะนำ และสังเกตคนรอบข้างด้วย ซึ่งการให้กำลังใจ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยกระทรวงสาธารณสุข ก็มีหน่วยเยียวยาจิตใจ เพื่อสร้างพลังบวก ซึ่งถือเป็น ศิลปะทางการแพทย์ ยิ่งจิตใจไม่ดี เจอคำพูดไม่ดีก็ยิ่งจะหนักได้
“อย่างเวลาเลือกตั้ง หากตนเลือกตั้งแพ้ กำลังใจเสีย ก็ต้องเอาใหม่ครั้งหน้า อย่าหายไป เราต้องสู้ ทั้งพลังกาย พลังใจ สู้ต่อไปอย่างมีเหตุผล อย่าไปเครียด เพราะถ้าเครียดก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จะแย่ลงได้ ” นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่ามีข้อเสนอขอให้กระทรวงสาธารณสุข มีศูนย์เยียวยาหรือบำบัดเฉพาะบุคลากรสาธารณสุข เพื่อช่วยดูแลสุขภาพจิต เยียวยาจิตใจ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งกรณีนี้ทางกรมสุขภาพจิต ให้รับไปพิจารณา เพราะเป็นเรื่องปฏิบัติการ คงไม่สามารถตัดสินใจได้
ถามว่าจะมีนโยบายสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรมีสุขภาพจิตดี อย่างภาระงาน หรือค่าตอบแทนใดๆ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นโยบายลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือเอ็นซีดี จะช่วยลดภาระงานได้ เพราะถ้าคนไม่ป่วย ก็ไม่ต้องมา รพ. ก็จะช่วยลดภาระงานได้
“ผมรู้ว่าพี่น้องข้าราชการสาธารณสุขเหนื่อยในการดูแล แต่หากผู้ป่วยเอ็นซีดีลดลง ป่วยน้อย ก็จะช่วยลดภาระงานบุคลากรได้ ไม่ต้องทำงานเกิน 8 ชั่วโมง เราก็ไม่ต้องเพิ่มบุคลากรให้เร็วกว่าที่วางแผน 10 ปี จะเร่งเพิ่มให้เอาวันนี้ ทำไม่ได้ แต่อย่าเอาทุกประเด็นลึกลงไปเลย งบประมาณเท่าไหร่ก็ไม่พอ” นายสมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิต เผยถึงหลักยึด เพื่อที่จะนำตัวเองให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆที่เผชิญอยู่ได้ เรียกว่าพลังใจ หรือ “อึด ฮึด สู้” ประกอบด้วย
1.พลังอึด ความสามารถทางจิตใจ ความอดทนต่อแรงกดดันและความเครียด โดยไม่ยอมแพ้ ช่วยให้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยไม่ย่อท้อหรือหมดกำลังใจ เป็นคุณสมบัติที่ทำให้บุคคลไม่แตกสลายจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ
2.พลังฮึด การรวบรวมพลังและทรัพยากรที่มีอยู่ ทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง ปลุกความมุ่งมั่น แรงจูงใจ ทั้งภายในและภายนอก โดยเปลี่ยนมุมมองที่สิ้นหวังต่ออุปสรรคให้มีความหวังมากขึ้น และเห็นเป็นโอกาสในการเติบโต
3.พลังสู้ พลังส่วนบุคคล เพื่อให้ตัวเองผ่านภาวะวิกฤต และสามารถนำไปช่วยเหลือ แนะนำคนอื่นได้ ผมจึงขอให้ใช้หลักการนี้เผยแพร่ไปสู่คนรอบข้าง เพื่อให้ทุกๆคน สามารถร่วมกันก้าวผ่านวิกฤตไปพร้อมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเราไม่สามารถห้ามวิกฤตปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเรามีพลังใจ “อึด ฮึด สู้” ก็เชื่อมั่นว่า ทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไปได้อย่างแน่นอน