Skip to content
  • ข่าว

หมวดหมู่: ข่าว

โควิดในไทย “26 มิถุนายน 65” ติดเชื้อรายใหม่ 2,378 ราย

กรมวิทย์ ชี้โควิดสายพันธุ์ BA.4,BA.5 พุ่งพรวด 200 ราย จับตาเข้ม 2 สัปดาห์

โควิดในไทย “25 มิถุนายน 65” ติดเชื้อรายใหม่ 2,236 ราย

ชัชชาติ เซ็นประกาศ กทม.คลายล็อกโควิด ไม่บังคับสวมแมสก์

โควิดในไทย “24 มิถุนายน 65” ติดเชื้อรายใหม่ 2,313 ราย

สธ.เผยหลังผ่อนคลายผับบาร์พบติดเชื้อเพิ่ม รายงานชี้สายพันธุ์ BA.4-BA.5 ลงปอดมากกว่าเดิม

โควิดในไทย “23 มิถุนายน 65” ติดเชื้อรายใหม่ 2,299 ราย

สธ.ห่วงไม่ฉีดเข็มกระตุ้น ชี้โควิดยังติดเมืองใหญ่ สูงวัย-มีโรคดับอื้อ

โควิดในไทย “22 มิถุนายน 65” ติดเชื้อรายใหม่ 2,387 ราย

ฮ่องกงปิดตำนาน ภัตตาคารลอยน้ำเกือบ 50ปี จมทะเลจีนใต้

แนะแนวเรื่อง

Previous page Page 1 … Page 193 Page 194 Page 195 … Page 283 Next page

ข่าวสุขภาพ

  • สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 พบกว่าครึ่งทำแท้ง เพราะปัญหาเศรษฐกิจ

    แนะประกันสังคมจ่ายค่าตั้งท้องเดือนละ 3,500 ช่วยหนุนการเกิดอย่างมีคุณภาพ ขณะที่กว่าครึ่งทำแท้งเพราะปัญหาเศรษฐกิจ

    เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ จัดแถลงข่าว “แนะประกันสังคมจัดสวัสดิการคนท้องเพื่อท้องอย่างมีคุณภาพ ชี้มากกว่าครึ่ง ทำแท้งเพราะปัญหาเศรษฐกิจ”

    นายสมวงศ์ อุไรวัฒนา ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ปี 2563 – 2567 มีผู้ที่ตั้งครรภ์และท้องไม่พร้อมที่โทรมาปรึกษาสายด่วน 1663 กว่า 179,769 คน โดยร้อยละ 49.8 ท้องไม่พร้อมจากปัญหาเศรษฐกิจ เช่น รายได้ไม่เพียงพอต่อการตั้งท้อง และการท้องเป็นอุปสรรคต่อการหารายได้ รวมถึงเป็นผลจากเศรษฐกิจโดยอ้อม เช่น มีลูกเพียงพอแล้ว และไม่มีคนช่วยเลี้ยง ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมร้อยละ 39.8

    นายสมวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยเจริญพันธุ์แห่งชาติ ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายการเกิดให้ไม่ต่ำกว่า 700,000 ราย ในขณะที่ คนไม่ต้องการมีลูก เพราะการจะตั้งท้องอย่างมีคุณภาพมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หากรายได้เท่าเดิม หรือเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ก็จะตั้งท้องอย่างมีคุณภาพได้อย่างลำบาก ซึ่งตามกฎหมาย หากผู้หญิงท้องจะไม่สามารถทำงานล่วงเวลา (OT) ได้

    ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวถึงข้อเสนอว่า สำนักงานประกันสังคมควรสนับสนุนงบประมาณให้กับผู้หญิงที่ท้องได้รับเงินตอนตั้งท้องเดือนละ 3,500 บาท คิดจากฐานค่า OT ที่เสียไป โดยให้เริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ไปฝากท้อง และมีใบรับรองแพทย์ว่าได้ฝากท้องแล้ว เพื่อให้ผู้หญิงที่ตั้งท้องได้ฝากครรภ์เร็ว จะได้ท้องอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ ข้อมูลในปี 2567 มีผู้ประกันตนจากมาตรา 33 และ 39 เบิกค่าคลอดกว่า 200,000 ราย หากสำนักงานประกันสังคมสนับสนุนเงินเพื่อดูแลผู้หญิงที่ท้องให้มีคุณภาพ จะใช้งบประมาณทั้งสิ้นราว 5,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ผู้หญิงที่ท้องมีเงินเก็บในระหว่างท้อง และระหว่างคลอด

    “อยากให้ประกันสังคมนำร่องก่อน เพราะมักอ้างว่าดูแลผู้ประกันตนอย่างดี ซึ่งจะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนดีขึ้น และส่งเสริมการเกิดอย่างมีคุณภาพ แล้วหลังจากนี้ มูลนิธิฯ จะนำข้อเสนอไปยื่นกับบอร์ดประกันสังคมฝั่งลูกจ้าง เพื่อให้คุ้มครองสิทธิของผู้หญิงต่อไป” ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าว

    ด้าน นายสมชาย กระจ่างแสง ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน กล่าวว่า มีกฎหมายสองฉบับ ที่ถือเป็นอุปสรรคต่อผู้หญิงท้องคือ 1. กฎหมายประกันสังคม เรื่องสิทธิประโยชน์การคลอดบุตร ที่ผู้หญิงท้องจะต้องนำใบเกิดของบุตร มาแลกเงิน 15,000 บาท เป็นการสนับสนุนค่าคลอดของผู้ประกันตน ในขณะที่ ระหว่างตั้งท้องไม่มีสิทธิอะไรเลย หากผู้หญิงท้องต้องผ่าคลอดในโรงพยาบาลเอกชน เงินจำนวนนี้ก็อาจไม่เพียงพอ ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญ และหากแก้กฎหมายได้ ก็ควรต้องปรับให้เป็นค่าแรกรับแรกเกิด หรือค่าเตรียมการสำหรับมีลูก เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนการคลอดนั้นก็ควรเป็นการดูแลรักษาสุขภาพ ในสิทธิการรักษา เหมือนสิทธิราชการและบัตรทอง ไม่ต้องสำรองจ่ายเอง

    ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน กล่าวต่อไปว่า 2. กฎหมายคุ้มครองแรงงาน เรื่องกำหนดการทำงานของผู้หญิงตั้งครรภ์ ที่พยายามเขียนไว้ปกป้องการทำงานของผู้หญิงท้อง ที่ห้ามผู้หญิงท้องเข้ากะ และทำ OT แต่ส่งผลให้ได้รับเงินเดือนลดลง เช่น ได้รับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 350 บาท หากทำ OT จะได้รับ OT ชั่วโมงละ 43 บาท ทำวันละ 5 ชั่วโมง เดือนละ 15 วัน จะขาดรายได้ถึงเดือนละ 3,225 บาท เป็นต้น ดังนั้น สำนักงานประกันสังคม ควรเพิ่มสิทธิประโยชน์ค่าตั้งท้อง เพื่ออุดช่องว่างนี้

    น.ส.ปนัดดา ขวัญทอง เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 เล่าว่า จากประสบการณ์ของตัวเองที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แล้วเป็นผู้ประกันตน ระหว่างที่ตั้งท้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น เรื่องสุขภาพ ต้องดูแลบำรุงเสริมเด็กในครรภ์ ไปโรงพยาบาลก็มีค่ารถ จากเดิมเคยนั่งรถเมล์ รถสองแถวได้ ก็ต้องเปลี่ยนมานั่งแท็กซี่ ค่าอาหาร ค่าชุดก็ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ต้องซื้อหนังสืออ่าน ซื้อของเตรียมให้ลูก เพื่อให้เด็กในท้องแข็งแรงสมบูรณ์ และมีคุณภาพ และหากเป็นผู้ประกันตน ก็ต้องมีเงินสำรองจ่ายไปก่อน ทั้งนี้ การมีเงินสนับสนุนผู้หญิงที่ท้อง จะช่วยบรรเทารายได้ที่ขาดหายไปจากรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น อย่างน้อยได้มีเงินสำรองเก็บในการจ่ายค่าคลอด ทำให้ผู้หญิงเบาใจ และเป็นกำลังใจว่า ได้รับการดูแล เพื่อให้คลอดลูกได้อย่างมีคุณภาพ

  • กรมวิทย์ฯ เพิ่มศักยภาพคัดกรองทารกแรกเกิดเพิ่ม 40 โรค หวังลดค่าใช้จ่ายการดูแลรักษา

  • อย. เตือน ยาเสพติดแฝงรูปการ์ตูน “Molly” และ “ลาบูบู้” อันตรายถึงชีวิต

Fun Database © 2025 - Designed By SS1 Powered by SUMONE