ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานวันที่ 25 มี.ค. ว่า มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่าสหรัฐมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทะลุ 30 ล้านคนแล้ว ภายหลังพบผู้ติดเชื้อใหม่ 66,538 คนในช่วง 24 ชั่วโมงเมื่อวันพุธที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา และเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนหลังจากสหรัฐมียอดป่วยสะสมทะลุ 20 ล้านคน ขณะที่ผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 545,000 ราย

โดยสหรัฐยั้งรั้งอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะสูงที่สุดในโลก ซึ่งยอดรวมผู้ป่วยทั้งโลกอยู่ที่ 125.42 ล้านคน และเสียชีวิต 2.75 ล้านราย สำหรับประเทศที่รั้งอันดับ 2 คือ บราซิล พบผู้ป่วยใหม่ 90,564 คน ส่งผลให้ยอดติดเชื้อเพิ่มเป็น 12.22 ล้านคน เสียชีวิต 301,087 ราย อันดับ 3 อินเดีย มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มอีก 53,419 คน ยอดรวมพุ่งเป็น 11.78 ล้านคน เสียชีวิต 160,726 ราย อันดับ 4 รัสเซีย ป่วยสะสม 4.48 ล้านคน เสียชีวิตแล้ว 96,219 ราย และอันดับ 5 ฝรั่งเศส ติดเชื้อใหม่ 33,389 คน รวมยอดป่วย 4.37 ล้านคน เสียชีวิต 93,180 ราย

วันเดียวกัน แหล่งข่าวกระทรวงการต่างประเทศอินเดียระบุว่า รัฐบาลจะระงับการผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซ์ฟอร์ดสำหรับส่งออกทั้งหมดเป็นการชั่วคราว ภายหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะสูงต่อเนื่อง

การยุติการส่งออกวัคซีนของอินเดียซึ่งคาดว่าจะนานถึงปลายเดือนเม.ย. และจะส่งผลกระทบต่อ 190 ประเทศในโครงการโคแวกซ์ หรือโครงการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยก่อนหน้านี้อินเดียผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซ์ฟอร์ดส่งออกมากกว่า 60 ล้านโดสให้แก่ 76 ประเทศทั่วโลก