วันที่ 26 มี.ค. 64 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (ศบศ.) ที่ประชุมเห็นชอบแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 468 ล้านโดส ใน 135 ประเทศ จะเห็นได้ว่ามีผู้ได้รับวัคซีนแล้วจำนวนมากและพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยว จากการสำรวจพบว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของทุกตลาดนักท่องเที่ยว ปลายทางยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ หัวหิน

ทาง ศบค. จึงกำหนดแล้วว่าไตรมาส 4 ของปีนี้ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว จึงอยากทดลองในบางพื้นที่ก่อน ซึ่งเป็นที่มาของ “ภูเก็ต Sandbox” คือ รับนักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนแล้ว แต่ต้องกักตัวในพื้นที่โรงแรม 7 วัน จากนั้นจะกำหนดพื้นที่ Seal Route เพื่อให้ไปท่องเที่ยวได้ในพื้นที่ที่กำหนด โดยพื้นที่แรกที่จะเริ่มในไตรมาส 2 (1 เม.ย.) คือ จ.ภูเก็ต ก่อนขยายไปพื้นที่อื่น เช่น กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่

ในไตรมาส 3 (1 ก.ค.) จะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนแล้วบินตรงมาที่ภูเก็ต เมื่อตรวจโควิด-19 ผลเป็นลบแล้วจะไม่ต้องกักตัว และสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในภูเก็ต ตั้งเป้ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประมาณ 1 แสนคน แต่จะเป็นพื้นที่ใดบ้างต้องมีการศึกษาทดลองจากพื้นที่ Seal Route ในไตรมาส 2

และในไตรมาส 4 พื้นที่เป้าหมายทั้งหมด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนและผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ จะไม่ต้องกักตัว แต่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันควบคู่ เช่น แอปพลิเคชันติดตามตัว