วันที่ 23 ทาง CDC มีมติ 10 ต่อ 4 เสียง ให้ปรับคำแนะนำให้กลับมาใช้วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องระบุถึงผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีน ทำให้คาดว่าสหรัฐฯ จะกลับมาแจกจ่ายวัคซีนโควิดจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ภายในสัปดาห์หน้าได้ จากที่ก่อนหน้านี้ทาง CDC และสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ประกาศระงับการใช้วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หลังพบผู้หญิง 6 รายมีปัญหาลิ่มเลือดอุดตันหลังรับวัคซีน จากที่อเมริกาแจกจ่ายวัคซีนตัวนี้ให้ประชาชนไปกว่า 8 ล้านรายทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมา แต่ถือว่าสัดส่วนของวัคซีนของบริษัทยาแห่งนี้ยังถือเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับวัคซีนจากผู้พัฒนารายอื่น

โดยทาง CDC ได้รับแจ้งจากรัฐโอเรกอน ว่ามีหญิง 1 รายในวัย 50 ปี เสียชีวิต หลังรับวัคซีนโควิดของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ก่อนที่ทางการสหรัฐฯ จะระงับการแจกวัคซีนตัวนี้กับประชาชน โดยทางสาธารณสุขรัฐโอเรกอน ระบุว่า หญิงรายนี้มีอาการลิ่มเลือดอุดตันอย่างรุนแรง ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังรับวัคซีน พ่วงด้วยภาวะระดับเกล็ดเลือดต่ำ ก่อนจะเสียชีวิตในวันอังคาร ส่วนหญิงอีกรายในรัฐเท็กซัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการลิ่มเลือดอุดตัน หลังรับวัคซีนโควิดของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ก่อนจะเสียชีวิตในวันพุธที่ผ่านมา

ในขณะที่ข้อมูลล่าสุดที่ CDC ได้รับ พบว่า มีผู้ที่มีปัญหาลิ่มเลือดอุดตันแบบ TTS (Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome) ซึ่งพบได้ยากแต่มีอาการรุนแรง อันเนื่องมาจากการรับวัคซีนโควิดของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รวมทั้งสิ้น 15 ราย เสียชีวิต 3 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 7 ราย โดย 13 รายในนี้เป็นผู้หญิงอายุต่ำกว่า 50 ปีทั้งสิ้น ตามข้อมูลของซีเอ็นเอ็น