เคสแรกในไทย! ปลัดหญิงดับหลังรักษาโควิดหาย สุดท้ายพบปอดอักเสบรุนแรง-ติดเชื้อในกระแสเลือด
วันที่ 17 มิ.ย. 64 จากกรณี น.ส.วรรณี คงทอง อายุ 57 ปี ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน ที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบประจวบคีรีขันธ์ จากอาการ ปอดติดเชื้อรุนแรง ปอด 2 ข้าง ได้รับความเสียหายเหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ป่วยหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ รักษาตัวนานกว่า 1 สัปดาห์ และเสียชีวิตในวันนี้ เวลา 06.35 น.
โดยที่ก่อนติดเชื้อโควิด 19 น.ส.วรรณี พร้อมลูกจ้างในหน่วยงาน ได้ลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านเพื่อบริการทำบัตรประชาชนให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ต่อมาพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แล้วเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จนกระทั่งรักษาหายตรวจไม่พบเชื้อ ก่อนจะกักตัว 14 วัน และกลับมาทำงานที่อำเภอได้ประมาณ 1 สัปดาห์ มีอาการเหนื่อยหายใจติดขัด ทำงานไม่ไหว จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่ไม่พบเชื้อโควิด 19 ผลตรวจเอกซเรย์พบปอดมีฝ้าขาว ทำให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสงสัยว่าขณะที่ น.ส.วรรณี พักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม ไม่มีอาการเจ็บป่วย แต่เมื่อออกจากโรงพยาบาลปอดได้รับความเสียหายได้อย่างไร
ด้าน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตของปลัดอำเภอหญิงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจทางการแพทย์ เดิมมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง ต่อมามีการตรวจพบเชื้อโควิด 19 วันที่ 14 เมษายน เข้านอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 15-18 เมษายน จากนั้นย้ายไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม 19-30 เมษายน และหลังจากกลับออกมาทำงานถึงวันที่ 27 พฤษภาคม จึงเริ่มมีไข้แล้วล้มป่วย ตรวจพบไม่เจอเชื้อโควิด 19 จากอาการปอดอักเสบรุนแรง
โดยผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น จึงใส่ท่อช่วยหายใจให้ยาฆ่าเชื้อ พบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด ระบบหายใจล้มเหลว ตับและไตวายเฉียบพลัน เสียชีวิตในเช้าวันนี้ เวลา 06.35 น. ซึ่งได้ตรวจหาเชื้อโควิด 19 แต่ไม่พบ ถ้าหากสงสัยว่าเป็นปัญหามาจาการติดเชื้อโควิด 19 รอบแรกหรือไม่ หากญาติยินยอมจะต้องนำชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ หรือนำร่างไปผ่าชันสูตร เพื่อหาผลสรุปต่อไป