ลูกสาวสะอื้น คุณแม่วัย 67 เส้นเลือดในสมองแตกโคม่าหลังพาไปฉีดวัคซีนโควิด
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากทาง น.ส.ปัทมา อายุ 32 ปี ชาว อ.คุระบุรี จ.พังงา ว่า แม่ของตนเองต้องเข้าห้องไอซียู หลังจากเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ
สอบถามทราบว่า ในวันที่ 30 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 14.30 น. นางยา อายุ 67 ปี เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ AstraZeneca ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อฉีดเสร็จพักดูอาการ 30 นาที จึงพากลับบ้านพัก จากนั้นช่วงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 ก.ค.64 นางยา เกิดอาการอาเจียนปนเลือด ปวดหัวมาก จึงให้กินยาพาราเซตามอล บรรเทาอาการ จนช่วง 06.00 น.วันที่ 1 ก.ค.64 มีอาการเช่นเดิมคือ อาเจียนปนเลือด และปวดหัวหนัก จึงพาเข้าโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวต่อโรงพยาบาลตะกั่วป่า พร้อมสแกนสมองพบว่า ความดันตก เส้นเลือดในสมองแตก จึงได้ประสานทาง โรงพยาบาลวชิระ เพื่อเข้าผ่าตัดสมองแต่อาการไม่ดีทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้ปฏิเสธ เนื่องจากหวั่นว่าผู้ป่วยจะเสียชีวิตระหว่างการนำส่งจึงให้ผู้ป่วยนอนรักษาตัวที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลตะกั่วป่า พร้อมใส่ท่อช่วยหายใจ โดยทางญาติๆ เชื่อว่าสาเหตุเส้นเลือดในสมองแตกจากผลกระทบของการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ดังกล่าว
ทาง น.ส.ปัทมา กล่าวทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนเองมีประวัติโรคหอบหืด และ วัณโรค ซึ่งรักษาจนหายมานานประมาณ 1 ปี ปัจจุบันดูแข็งแรง กระทั่งภาครัฐเปิดให้ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 แม่ของตนเองขอให้ตนเองพาไปฉีดหวังว่าสามารถป้องกันเชื้อดังกล่าวได้ท่ามกลางการคัดค้านของลูกๆ โดย นางยา ให้เหตุผลอีกว่าวัคซีนดังกล่าวอาจจะป้องกันโรคหอบหืดได้อีกด้วย จึงตัดสินใจพาแม่ตนเองเข้าฉีดวัคซีน พร้อมบอกแก่ผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองรู้สึกผิด เหมือนพาแม่ไปตาย
ด้าน นายแพทย์วุฒิ วิโนทัย รอง ผอ.โรงพยาบาลตะกั่วป่า จ.พังงา กล่าวว่า ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปวดหัวรุนแรง ความดันลดลงต่ำมาก มีอาการอาเจียนปนเลือด ทางแพทย์ผู้รักษาจึงทำการสแกนสมองด้วยคอมพิวเตอร์ พบว่า เส้นเลือดในสมองแตก จากประวัติก่อนหน้านี้ ทราบว่า ผู้ป่วยเคยเข้ารับการตรวจ มีความดันสูงเกินเกณฑ์มาตลอด และอาจจะไม่ได้วัดความดันโลหิตเป็นระยะๆ ซึ่งในช่วงฉีดวัคซีนความดันโลหิตอาจจะไม่เกินเกณฑ์มากนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ทราบประวัติเรื่องความดันโลหิต จึงผ่านการคัดกรองเบื้องต้นในจุดฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลตะกั่วป่า พร้อมเสนอคณะกรรมการวัคซีนเพื่อพิจารณาการรับเงินเยียวยาตามสิทธิ์จาก สปสช. ต่อไป