สธ. เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส hMPV ทางห้องปฏิบัติการ เผยพบผู้ป่วยมากช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เฝ้าระวังเชื้อ hMPV ทางห้องปฏิบัติการ ตรวจสารพันธุกรรมของไวรัส ด้วยวิธี Real-time RT-PCR ในกลุ่มผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่-ปอดบวม พบติดเชื้อสูงสุดในเดือนมกราคม 67 เตือนดูแลสุขภาพฤดูฝนถึงฤดูหนาว โดยเฉพาะเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปี
เมื่อวันที่ 13 มกราคม นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบาดของเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (Human Metapneumovirus) หรือ ไวรัส hMPV ที่ต่างประเทศว่า โรคติดเชื้อไวรัส hMPV เป็นไวรัสที่สามารถทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
พบครั้งแรกในปี พ.ศ.2544 อยู่ในตระกูล Pneumoviridae เช่นเดียวกับไวรัสอาร์เอส (human respiratory syncytial virus) เมื่อติดเชื้อ hMPV จะมีระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ 3-6 วัน โดยจะมีอาการคล้ายกับการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น ไอ มีไข้ คัดจมูก และหายใจลำบาก ผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันหรือปอดบวมได้ โดยเชื้อ hMPV สามารถแพร่กระจายจากคนที่ติดเชื้อไปยังผู้อื่นผ่านการไอหรือจาม การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การสัมผัสสารคัดหลั่งแล้ว เชื้อเข้าทางปาก จมูก หรือดวงตา ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้นาน 1-2 สัปดาห์หลังจากแสดงอาการ
ปัจจุบันการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัส hMPV ทางห้องปฏิบัติการ ทำได้โดยการตรวจทางชีวโมเลกุล ด้วยวิธี Real-time RT-PCR จากตัวอย่างส่งตรวจจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการเชื้อไวรัสชนิดนี้ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 โดยการตรวจสารพันธุกรรมของไวรัส ด้วยวิธี Real-time RT-PCR ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่และปอดบวมจากโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศ และในปี พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส hMPV ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดในเดือนมกราคม
จากนั้นพบการติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเมษายน โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อ hMPV ร้อยละ 2.9 จากจำนวนตัวอย่างเฝ้าระวังโรคระบบทางเดินหายใจทั้งหมด 10,695 ตัวอย่าง ส่วนมากพบในเด็กเล็กช่วงอายุ 0 -5 ปี
นพ.ยงยศ กล่าวอีกว่า การรักษาส่วนใหญ่เป็นแบบประคับประคองตามอาการ ไม่ได้ร้ายแรง หรือไม่ได้มาหาหมอก็สามารถหายเองได้ ประชาชนสามารถป้องกันตัวเองจากโรคติดเชื้อไวรัส hMPV ซึ่งทำได้เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ดูแลเรื่องสุขลักษณะให้ร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือให้สะอาด และหากมีอาการไอ เจ็บคอ ให้สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอหรือจาม และสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย สำหรับเด็กที่ป่วยควรหยุดเรียน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น