สปสช. เผยล่าสุด “ประกันสังคม-ข้าราชการ” ไม่พร้อมรวมกองทุนสุขภาพ ร่วมกับบัตรทอง

“สมศักดิ์” ลั่นก่อนรวมกองทุนสุขภาพ ต้องถามความพร้อม ล่าสุด “ประกันสังคม-สิทธิข้าราชการ” ส่งหนังสือยังไม่พร้อมร่วมบัตรทอง ด้านเลขาฯสปสช.เผยคกก.ชุดนายกฯแต่งตั้งศึกษาค่ารักษากองทุนสวัสดิการภาครัฐ ยังไม่มีการพูดถึงกองทุนหนึ่งเดียว ส่วนสอบถามรวมกองทุนฯ พราะมีช่องทางมาตรา 10 และ 66 ของพ.ร.บ.ฯ ขณะเดียวกัน รมว.สธ.ยันค่ารักษาต่างด้าวเรียกเก็บไม่ได้ 2 พันกว่าล้าน ไม่ใช่ 9.2 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 68 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมบอร์ดสปสช. กรณีข้อเสนอโอนสิทธิประโยชน์รักษาพยาบาลจากประกันสังคมรวมกับสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ว่า กฎหมายให้พิจารณาทำระบบประกันสุขภาพภาครัฐรวมกันได้ โดยสปสช.ได้สอบถามไปและล่าสุดได้รับหนังสือตอบกลับมาว่า ทั้ง 2 กองทุนประกันสุขภาพภาครัฐ คือ ประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการยังไม่พร้อม ซึ่งต้องยึดความสมัครใจด้วย
” ล่าสุดปีนี้ 2 กองทุนสุขภาพ ตอบมาว่ายังไม่พร้อม ก็ต้องรอจนกว่าแต่ละหน่วยงานจะมีความพร้อมถึงจะคุยกัน ทั้งนี้ เมื่อมีหนังสือจาก 2 กองทุนส่งเข้ามา ผมก็ได้แจ้งในการประชุมครม.รับทราบแล้วเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา” นายสมศักดิ์กล่าว
ถามต่อว่าตาม ข้อกำหนดในพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ 2545 สามารถรับโอนสิทธิรักษาประกันสังคมมาได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องคุยกันยังตอบเลยไม่ได้แต่ถ้ามีเจตจำนงจะมารวมที่เดียวกันก็โอเค อย่างเรื่อง การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดสรรเงินในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้แก่หลักประกันสุขภาพนั้น เขาก็ประสงค์จะเข้ามาเอง
ด้านนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสปสช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามกฏหมายสิทธิประโยชน์ จะให้หน่วยงาน สปสช. เป็นคนกำหนด และสิทธิประโยชน์เป็นไปตามที่องค์กรนั้นกำหนด ถ้ามีการกำหนดอย่างไรก็บริหารตามนั้น
ม.10-ม.66 พ.ร.บ.หลักประกันฯ ประเด็นรวมกองทุน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแสดงว่ารวมกองทุนประกันสุขภาพภาครัฐไม่น่าจะเกิดในปีงบประมาณ 2569 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นการตอบมาจากครั้งล่าสุดที่สปสชได้มีการสอบถามไปซึ่งเป็นสถานการณ์เมื่อ 2-3 เดือนก่อน คงต้องคุยกันในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ตามกฎหมายมาตรา 66 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ให้สปสช. สอบถามไปยังอีก 2 กองทุนได้ปีละครั้ง ซึ่งมีการสอบถามตลอดทุกปีตั้งแต่มีพ.ร.บ.มาเป็นเวลา ราว 23 ปีแล้ว เมื่อเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่ก็จะถามไปอีกเป็นไปตามกฎหมาย
ถามต่อว่าตามมาตรา 10 พ.ร.บ หลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น สปสช.สามารถรับสิทธิรักษาประกันสังคมมาได้ นพ.จเด็จ กล่าวว่า อยู่ที่การตกลงกัน แต่ปีล่าสุดที่สปสช.สอบถามไปได้รับคำตอบว่า2กองทุนยังไม่มีความพร้อมที่จะรวมกองทุน หากเมื่อมีความพร้อมก็จะต้องหารือในรายละเอียดต่อไป
“ อย่างในปีนี้ที่มีการถามไปยังไม่มีความพร้อม ซึ่งเมื่อเดือน มกราคม ที่ผ่านมาท่านนายกฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อดูในเรื่องการบริหารสามกองทุนเป็นอย่างไรด้วยเช่นกัน” เลขาธิการสปสช.กล่าว
ถามต่อว่า กรรมการชุดนี้จะมองไปถึงเรื่องการรวมสามกองทุนด้วยหรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า จริงๆตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน ยังตอบยาก ยังไม่สามารถตอบได้ แต่โดยภารกิจมีการเสนอนโยบายและแผนต่างๆมาแล้ว เร็วๆนี้อาจมีการประชุม
เมื่อถามว่ากรณีที่ 2 กองทุนตอบกลับมาว่ายังไม่พร้อม เพราะฉะนั้นในกรณีรวมกองทุนเดียวไม่น่าจะเกิดในปีงบประมาณ 2569 ใช่หรือไม่ นพ.เจด็จ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องการตอบมาจากครั้งที่แล้ว เมื่อสถานการณ์ 2-3 เดือนที่แล้วคงต้องรอดูในอนาคตต่อไป
ค่ารักษาแรงงานต่างด้าวเรียกเก็บไม่ได้
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังได้ตอบคำถามกรณีตัวเลขค่ารักษาพยาบาลต่างด้าวที่เก็บไม่ได้ 9.2 หมื่นล้านบาท สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ระบุข้อมูลมาจากกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ว่า โรงพยาบาลชายแดนมี 31 จังหวัด เงินค่ารักษาพยาบาลต่างด้าวประมาณ 2,056 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 66 ล้านบาท ต่อจังหวัด ที่ยังเก็บไม่ได้ ถ้าเขาถามกองเศรษฐกิจสุขภาพ ก็ต้องไปถามกองฯ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ออกมา กลัวคนจะเข้าใจผิดกันทั้งบ้านทั้งเมือง เมื่อเป็นความผิดพลาดก็ไม่อยากจะพูด บ่อยๆ