กรมจิต ส่งทีม MCATT ดูแลจิตใจ ปชช. เผชิญปัญหาหมอกควัน-ฝุ่นพิษ PM 2.5
กรมสุขภาพจิต ส่งทีม MCATT ร่วมกับพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 วางแผนและติดตามสถานการณ์หมอกควัน ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมดูแลกายใจ ปชช. แนะ 3 ส. รับมือความเครียด
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยงสถานการณ์หมอกควันที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบ จากภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ทุกภาคส่วนติดตามและบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากปัญหาฝุ่นละออง หมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือที่มีค่า PM 2.5 สูงขึ้นเกินค่ามาตรฐานส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของหลายๆ คน รวมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ
โดยเฉพาะสุขภาพใจนั้น หากเกิดความเครียดจะทำให้เกิดอาการหงุดหงิด วิตกกังวล กลัว คิดมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องการเรียนหรือการทำงานได้ จึงต้องดูแลสุขภาพทางใจให้ดีเป็นพิเศษ สร้างความตระหนักและไม่ตื่นกลัว แต่เน้นตื่นตัวในการป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง อีกทั้งไม่กล่าวโจมตีด้วยอารมณ์ที่รุนแรงด้วยการหาผู้ที่สร้างความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นจากภายในประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงเลือกรับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรมสุขภาพจิต ขอแนะนำให้ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามที่แนวทางที่ภาครัฐบาลได้ประกาศ และในด้านการดูแลจิตใจได้บูรณาส่งทีม MCATT ร่วมกับพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 เพื่อวางแผนและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้ประชาชนใช้ 3 ส. ในการรับมือและมีการป้องกันที่ดี เพื่อจะช่วยลดความเครียดลงได้
ส.ที่ 1 คือ ให้สอดส่องมองหา ผู้ที่ได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และกลุ่มเสี่ยงที่ต้อง เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยจิตเวช หรือกลุ่มเปราะบาง เป็นต้น
ส.ที่ 2 คือ ใส่ใจ รับฟัง เพื่อช่วยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึก คลายความทุกข์ในใจ เพื่อช่วยให้อารมณ์สงบขึ้น สบายใจขึ้น
ส.ที่ 3 คือ ส่งต่อคนที่อาจกำลังประสบปัญหาสุขภาพจิต ให้ไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการประเมินและรับความช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยส่งต่อของที่จำเป็นพื้นฐานให้กัน เช่น น้ำ อาหาร ยา จะช่วยบรรเทาความทุกข์ในเบื้องต้น และมีความเข้มแข็งทางใจเพิ่มขึ้น สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาวิกฤติหรือความยากลำบากไปได้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจจะหลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสูง ทั้งนี้ หากใครยังเครียดมาก วิตกกังวล นอนไม่หลับ สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือขอรับบริการด้านสุขภาพจิตจากโรงพยาบาลจิตเวชในสังกัด กรมสุขภาพจิตใกล้บ้านได้อีกด้วย