สมศักดิ์ เร่งรัดตั้งศูนย์ NCDs Prevention วางเป้าชี้วัดผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
รมว.สธ.ขับเคลื่อนการป้องกันโรคไม่ติดต่อในชุมชน เปลี่ยนกลุ่มเสี่ยงกลับเป็นปกติ ผุดศูนย์ NCDs Prevention ตั้งตัวชี้วัดระยะสั้น – กลาง – ยาว เปิดโครงสร้าง อสม. – นักกำหนดอาหาร – พยาบาล เป็นเจ้าหน้าที่ร่วม
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 67 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันโรคไม่ติดต่อในชุมชน (NCDs Prevention) เปิดเผยว่า จากที่ได้ประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันโรคไม่ติดต่อในชุมชน ที่มีนพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ โดยได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนการป้องกันโรคไม่ติดต่อในชุมชน เพื่อปรับเปลี่ยนกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง ให้กลับเป็นกลุ่มปกติก่อนกลายสภาพเป็นกลุ่มป่วย ให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณา ซึ่งมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยศูนย์ป้องกันโรคไม่ติดต่อในชุมชน NCDs Prevention ณ สาธารณสุขอำเภอ แยกเป็นกลุ่มป่วย กับกลุ่มปกติ/กลุ่มเสี่ยง
สำหรับกลุ่มป่วย ต้องไป NCDs Remission Clinic ส่วน กลุ่มปกติ/กลุ่มเสี่ยงจะไป NCDs Prevention Service เมื่อจัดตั้งศูนย์ฯ ต้องมีตัวชี้วัดว่า ในระยะเริ่มต้น 0-1 ปี มีจำนวนกลุ่มเสี่ยงที่สามารถกลับไปเป็นกลุ่มปกติเท่าไร ระยะกลาง 1-3 ปี อัตราการเปลี่ยนกลุ่มเสี่ยงให้กลับมาปกติมากน้อยแค่ไหน ระยะยาว 3-5 ปี อัตราการเกิดผู้ป่วยโรคเรื้อรังรายใหม่ลดลงหรือไม่ ส่วนอัตรากำลังประจำศูนย์จะประกอบด้วย อสม. นักวิชาการสาธารณสุข พยาบาลวิชาชีพ นักกำหนดอาหาร นักกายภาพบำบัด นักวิทยาศาสตร์การกีฬา พยาบาลจิตเวช/นักจิตวิทยา อุปกรณ์ประจำศูนย์ อาทิ เครื่องวัด BP เครื่องเจาะน้ำตาล เครื่องชั่งน้ำหนัก สายวัดรอบเอว Model และอาหาร อุปกรณ์สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ให้ยืมกลับไปใช้ที่บ้าน อาทิ เครื่องวัด BP เครื่องเจาะน้ำตาล และเครื่องนับการเคลื่อนไหว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ศูนย์ดังกล่าว เป็นแนวทางที่ตนหวังอยากให้เกิดขึ้นโดยเร็ว จึงได้สั่งให้เร่งรัดการดำเนินการจัดตั้ง เพื่อเข้าไปเฝ้าระวังส่งเสริม สนับสนุน สร้างความรู้ความเข้าใจให้คนในชุมชนให้รู้จักการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ในส่วนเรื่องใดที่ยังไม่ชัดเจน ก็ให้เร่งหาคำตอบเพื่อจะได้จัดตั้งศูนย์ขึ้นโดยเร็ว ตนไม่อยากให้ล่าช้า อยากเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในวงกว้าง เมื่อประชาชนรับรู้ข้อมูล ก็จะช่วยลด และป้องกันการเกิดโรค สุดท้ายก็ไม่เป็นภาระงบประมาณของประเทศ คนไทยสุขภาพดีแข็งแรงกันทั่วหน้า