ข่าว – หน้า 4

สธ.ลงพื้นที่ตรวจเนอร์สซิงโฮม ทำร้ายผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ย่านบึงกุ่ม

สปสช. หนุนใช้ “ถุงทวารเทียมฝีมือคนไทย” ช่วยประหยัดงบฯ ลดการนำเข้า เพิ่มการเข้าถึงบริการ

HA National Forum ครั้งที่ 25 ระดมหน่วยงานสุขภาพเผยแนวทางสร้างอนาคต “ระบบสุขภาพไทย”

มอบ สสส. สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า เสี่ยงโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด-ซึมเศร้า

ตั้งเป้าเพิ่มผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้องใช้เครื่อง APD รายใหม่ปีละ 5 พันราย

สรพ.โชว์แอปพลิเคชัน “บอกคุณ…ภาพสถานพยาบาล” อีกช่องทางรับฟังเสียงสะท้อนผู้รับบริการ

กรมอนามัย รุกส่งเสริมคุณภาพน้ำทุกแหล่งผลิต หลังผลโพลพบประชาชน 51% ไม่มั่นใจน้ำประปาดื่มได้

ตั้งเป้าเด็กแรกเกิดกินนมแม่ 6 เดือนแรก หลังพบมีเพียง 29% ได้กินนมแม่ภายใน 1 ชม.

สมศักดิ์ คาดชงครม.เคาะร่างพ.ร.บ.อสม. 27 มี.ค. เผยขั้นตอนตั้งบัญชีกองทุน อสม.

ประกาศก้อง “การกีฬาไทย (ไม่เอา) บุหรี่ไฟฟ้า” เน้นคงสมรรถภาพ-การฟื้นตัวนักกีฬาป้องโรคปอด

ข่าวสุขภาพ

สภาผู้บริโภค ชำแหละประกันสังคม สิทธิสุขภาพดีจริงหรือ..จี้ย้ายรวมบัตรทอง อีกฝั่งห่วงภาระงานหมอ

– ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน ชงแก้กฎหมายย้ายสิทธิผู้ประกันตนไปอยู่บัตรทองอัตโนมัติ ย้ำไม่ได้รวมกองทุน แต่รวมระบบสุขภาพ
– เครือข่ายแรงงานห่วงผลกระทบโยกคนประกันสังคมไปบัตรทอง ถามบุคลากรทางการแพทย์แล้วหรือยัง เหตุภาระงาน หมอลาออกยังแก้ไม่ตก! สวนกลับ “บัตรทอง” ยังมีปัญหาใบส่งตัว ย้ำต้องประชาพิจารณ์
– สภาองค์กรของผู้บริโภค จี้สปส.ควรให้ผู้ประกันตนเลือกอยากอยู่สิทธิสุขภาพไหน ไม่ใช่บังคับเหมือนเป็นของตาย

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 68 ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต สภาองค์กรของผู้บริโภค จัดเวทีความร่วมมือเพื่อยกระดับสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพของผู้ประกันตน มีภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมจำนวนมาก โดยน.ส.สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ประธานคณะอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ มีเป้าหมายต้องการให้ประชาชนทุกคน เข้าถึงการบริการสุขภาพ โดยต้องไม่ร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลในทุกสิทธิ ซึ่งในบัตรทองไม่ต้องจ่าย อาจมีค่าธรรมเนียม 30 บาทแต่ขอยกเว้นได้ แต่ประกันสังคมถูกหักเงินทุกเดือน เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ แต่สิทธิสุขภาพเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกันตนหรือไม่

“อย่างทันตกรรมของประกันสังคม จากเดิมค่าทำฟัน 600 บาทต่อปีและมีการสำรองจ่ายเอง แต่มีการขับเคลื่อนจนบอร์ดประกันสังคมพิจารณาขยายเป็น 900 บาทต่อปี ไม่ต้องสำรองจ่าย ใช้ได้หมดทั้งอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน แต่อยู่ใน 900 บาท แม้จะเป็นความก้าวหน้าแต่ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ขณะที่บัตรทองทันตกรรมให้ปีละ 3 ครั้ง ไม่กำหนดเพดานเงิน หน่วยบริการ หรือรพ.เบิกจ่ายตามการรักษาจริง” น.ส.สุรีรัตน์ กล่าว

น.ส.สุรีรัตน์ กล่าวอีกว่า อนุกรรมการฯ จึงสนใจสิทธิบริการสุขภาพของประกันสังคม(สปส.) มองว่า สิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล เป็น 1 ใน 7 สิทธิประโยชน์ที่ประกันสังคมดูแล และอยู่ในระบบผู้ประกันตนที่มีนายจ้างเท่านั้น ดังนั้น เวทีนี้ต้องการรวบรวมข้อมูลถึงแนวทางการยกระดับสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ อย่างการย้ายสิทธิสุขภาพของประกันสังคมไปใช้บัตรทองทำได้หรือไม่ อย่างไร หรือหากยังทำไม่ได้ ต้องร่วมกันผลักดันให้สปส.พัฒนาสิทธิรักษาให้เท่ากับบัตรทอง

ชงแก้กฎหมายย้ายผู้ประกันตนไปอยู่บัตรทองอัตโนมัติ
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน และรองประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการเรียกร้องความเป็นธรรมด้านสุขภาพให้ผู้ประกันตน คือ เราไม่ได้ต้องการรวมกองทุน ไม่ได้ต้องการให้กองทุนประกันสังคมไปอยู่กับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่ต้องการให้เกิดการรวมกันของระบบสุขภาพ ส่วน 6 สิทธิประโยชน์ที่ประกันสังคมดูแล ยังคงเหมือนเดิม นี่คือโจทย์สำคัญต้องให้ชัดเจน ซึ่งการจะขับเคลื่อนสามารถแก้ไขมาตรา 54 ของพ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 เพื่อให้เหลือสิทธิประโยชน์ 6 อย่าง และผู้ประกันตนจะไปเข้าในมาตรา 5 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คือ คนทุกคนมีสิทธิรับบริการจากภาครัฐ

นายนิมิตร์ กล่าวอีกว่า เมื่อผู้ประกันตนไปอยู่ในสิทธิบัตรทองอัตโนมัติตามกฎหมายแล้วนั้น อาจต้องแก้มาตรา 5 ในพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฯ เพิ่มเติมกรณีให้อำนาจสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สามารถจัดบริการสุขภาพให้กับคนทุกคนบนผืนแผ่นดินไทย รวมถึงแรงงานข้ามชาติ และบอร์ดสปสช.อาจประกาศว่าจะให้สิทธิประโยชน์แรงงานข้ามชาติที่ไม่ใช่คนไทยอย่างไร เป็นการให้อำนาจก่อน อันนี้คือการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ลดความเหลื่อมล้ำ แต่หากยังแก้ไขกฎหมายประกันสังคมไม่ได้ ก็ต้องทำให้สิทธิประโยชน์ของประกันสังคมเท่าเทียมกับระบบสุขภาพอื่นๆในประเทศ ซึ่งการแก้สิทธิผู้ประกันตนให้เท่าเทียม เช่น ผู้ประกันตนต้องได้สิทธิประกันสังคมทันทีเมื่อจ่ายเงินสมทบ ไม่ใช่ติดเงื่อนไขต้องจ่ายสมทบ 3 เดือน

ห่วงภาระงานหมอ รพ.รัฐ
นายมนัส โกศล ประธานสภาลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากจะนำสิทธิสุขภาพของผู้ประกันตนไปอยู่ในบัตรทอง ด้วยการแก้กฎหมายประกันสังคมเหลือ 6 สิทธิประโยชน์นั้น ถือเป็นเผือกร้อน และจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการเช่นนั้น จึงอยากให้มีการสอบถามความคิดเห็นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำเป็นประชาพิจารณ์ นอกจากสอบถามผู้ประกันตนแล้ว ต้องสอบถามบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด้วย เพราะปัจจุบันขาดแคลนแพทย์ ลาออกกันเยอะ ภาระงานก็จะมาก ดังนั้น ก่อนจะทำอะไรควรประชาพิจารณ์อย่างรอบด้าน

“จริงๆผมเห็นด้วยเรื่องรวมสุขภาพเป็นกองเดียวกัน แต่ประเด็นสำคัญ ถามบุคลากรทางการแพทย์ ในรพ.ของรัฐแล้วหรือยัง หากจะรวมสุขภาพทั้งหมด ยังมีโจทย์เรื่องภาระงาน บุคลากร รพ.ของรัฐ รับไหวหรือไม่ อีกอย่างการจะรวมระบบสุขภาพ รวมถึงสิทธิข้าราชการด้วยหรือไม่ ไม่เห็นมีใครไปกล้าแตะ จะพูดแค่ประกันสังคม บัตรทองคงไม่ได้” นายมนัสกล่าว และว่า ถามว่าบัตรทองดีหมดจริงหรือไม่ ตอนนี้ยังมีปัญหาเรื่องความแออัดในระบบปฐมภูมิ ประเด็นใบส่งตัว

ไม่กระทบภาระงาน ผู้ประกันตนยังรับบริการรพ.เอกชน
นายนิมิตร์ กล่าวถึงประเด็นรวมกองทุนสุขภาพประกันสังคมไปบัตรทองอาจกระทบภาระงานบุคลากรทางการแพทย์ ว่า เรื่องนี้ต้องมาหารือกัน แต่หลักๆ รพ.เอกชนที่เป็นคู่สัญญายังคงอยู่ ไม่ได้ยกเลิก เพียงแต่ผู้บริหารเป็นสปสช. ส่วนจะมีการจัดบริการปฐมภูมิอย่างไร ก็อยู่ที่การหารือ สิ่งที่เสนอเป็นเรื่องของระยะยาว เป็นการปรับโครงสร้าง แต่โจทย์ใหญ่คือ ต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกันตน

ถามผู้ประกันตน อยากอยู่สิทธิสุขภาพไหน
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สิ่งสำคัญเน้นเรื่องสุขภาพ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม โดยเสนอว่า ผู้ประกันตนต้องสามารถเลือกได้ว่า ต้องการอยู่ใช้สิทธิสุขภาพประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทอง และเมื่อประชาชนมีสิทธิเลือกได้ ก็จะทำให้ประกันสังคมตื่นตัว ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ เพราะเกิดการแข่งขันขึ้น ทุกวันนี้ไม่มีการแข่งขัน ก็กลายเป็นผู้ประกันตนเป็นของตายของประกันสังคม และขอให้สิทธิสุขภาพต้องเท่าเทียมทุกสิทธิ ไม่ใช่แบ่งแยกว่าสิทธิไหนได้ยาได้บริการดีกว่ากัน

จี้สปสช.ใช้ ม.9และม.10 ปมรวมกองทุนสุขภาพ
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า เรื่องสิทธิบริการสุขภาพเท่าเทียม มีมาตรฐานเป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินการภายใน 3 ปี(2568-2570) ของการคุ้มครองผู้บริโภค โดยประเด็นขับเคลื่อนที่สำคัญ ณ ตอนนี้คือ การทำให้ประชาชนและลูกจ้างทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยรัฐสนันบสนุนงบประมาณด้านบริการสุขภาพให้ผู้ประกันตนเหมือนกับประชาชนทุกคนในระบบบัตรทองและข้าราชการ ขณะเดียวกันผู้ประกันตนมาตรา 33 มีสิทธิใช้บัตรทองเช่นเดียวกับมาตรา 40 และนำเงินสมทบเรื่องสุขภาพรวมกับบำนาญชราภาพ

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ดำเนินการภายใต้มาตรา 9 และ 10 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 น้อยเกินไป อยากให้สปสช.เข้มงวดและเป็นหลักในการกำหนดสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพของทุกระบบ ซึ่งสปสช.ทำได้เลย โดยมาตรา 9 และมาตรา 10 เขียนไว้ชัดว่า ให้ทั้งสามกองทุนคุยกัน ซึ่งคุยกันทุกปี แต่คุยแบบไม่ทำอะไร จึงขอให้คุยและมีการขับเคลื่อน อย่างน้อยสปสช.ต้องเป็นผู้กำหนดสิทธิประโยชน์หลักแก่ทุกกองทุน ที่สำคัญมาตรา 9 ยังพูดถึงสิทธิข้าราชการ และมาตรา 10 พูดถึงสิทธิประกันสังคม ก็ต้องมาดูว่าจะรวมกองทุนสุขภาพได้อย่างไร ต้องคุยและมีมาตรการออกมาให้ชัดเจน

“ที่ผ่านมาสภาฯ ทำหนังสือถึงประกันสังคม(สปส.)หลายรอบ คือ ขอให้สปส. มีกลไกปรับปรุงสิทธิประโยชน์อัตโนมัติ ขณะนี้ประกันสังคมทำไม่ได้ แต่คนบัตรทองสามารถรับยาฟรีในร้านยาที่ร่วมโครงการได้ แต่สปส.ไม่ได้ ต้องรออีกกี่ขั้นตอน กว่าบอร์ดการแพทย์จะอนุมัติ ใช้เวลามากเกินไป” น.ส.สารีกล่าว

ด้าน รศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสปสช. กล่าวว่า ในเรื่องของการรวมกองทุนสุขภาพนั้น ต้องให้ทางสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เป็นหลักเรื่องนี้ เพราะในมาตรา 10 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฯ ต้องให้ 2 คณะกรรมการมาพูดคุยกัน คือประกันสังคมและบัตรทอง เพื่อกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร
สปสช.ไฟเขียว! “การจ่ายค่าพาหนะรับส่งผู้ป่วยรักษา 3 บริการการแพทย์ขั้นสูง
สปสช. ออกหลักเกณฑ์ใหม่ ช่วยผู้ป่วยได้รับการล้างไตที่เหมาะสม ดันล้างไตทางช่องท้องทางเลือกแรก